TOP พัฒนาพื้นที่สีเขียว “สวน 60 ปี ไทยออยล์-นครแหลมฉบัง” ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน

TOP รุกพัฒนาพื้นที่สีเขียว “สวน 60 ปี ไทยออยล์-นครแหลมฉบัง” ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโรงกลั่น เพื่อเป็นพื้นที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า แนวคิดหลักของการก่อสร้างสวน 60 ปี ไทยออยล์-นครแหลมฉบังนั้นเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนดูแลชุมชนในพื้นที่รอบโรงกลั่น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของเทศบาลนครแหลมฉบัง จึงเป็นที่มาของโครงการพัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้ขึ้น

“สำหรับสวน 60 ปี ไทยออยล์-นครแหลมฉบัง จะเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ของนครแหลมฉบัง เป็นแหล่งนัดพบของกลุ่มคนรักสุขภาพมาออกกำลังกาย และเป็นพื้นที่กิจกรรมสำหรับคนทุกช่วงวัย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การนำแนวคิดเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) โดยใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาเป็นแหล่งพลังงานภายใน โดยมีการออกแบบต้นไม้ภายในสวนฯ เพื่อเป็นพฤกษศาสตร์ศึกษาให้แก่เยาวชนในพื้นที่และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับนครแหลมฉบังอีกด้วย” นายวิรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ไทยออยล์มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่และประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐส่วนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และพลังงานของกลุ่มไทยออยล์มาช่วยเหลือ และพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนและสังคม เพื่อเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ

ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top Quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บน้ำมันดิบ น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

Back to top button