“เครือซีพี” เชื่อมั่นพลังคนรุ่นใหม่ หนุนตัวแทนองค์กร ขึ้นเวที “One Young World 2023”

เครือซีพี-บริษัทในเครือฯ เชื่อมั่นในพลังคนรุ่นใหม่ หนุน 20 ตัวแทนองค์กรขึ้นเวที One Young World 2023 ต่อเนื่องปีที่ 8 เตรียมความพร้อมเสริมองค์ความรู้ใน 5 ประเด็นสำคัญ ชูวิกฤตอาหาร-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศวาระด่วนต้องเร่งลงมือทำรับความท้าทายโลก


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือซีพีและบริษัทในเครือฯ ตระหนักและให้ความสำคัญในการสร้าง “ผู้นำรุ่นใหม่” มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีความเชื่อมั่นในพลังคนรุ่นใหม่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกใบนี้ได้ เพราะทุกวันนี้โลกกำลังเผชิญความท้าทายในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องของภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และวิกฤตอาหารโลก (Food Crisis) ที่เป็นวาระเร่งด่วน มีความเชื่อมโยงกันและส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลกที่จะต้องเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน  ซึ่งในการประชุม One Young World ครั้งนี้ได้นำวาระเร่งด่วนเข้าไปเป็นประเด็นสำคัญให้เยาวชนทั่วโลกร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้เครือซีพีในฐานะองค์กรภาคเอกชนไทยที่มีความตระหนักในปัญหา และมีเป้าหมายสู่การเป็นครัวของโลกพร้อมที่จะร่วมผลักดันคนรุ่นใหม่ของกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ที่เป็นทั้งคนดีและคนเก่งในการร่วมใช้ความรู้และศักยภาพของเครือฯ แก้วิกฤตของโลกในด้านต่างๆ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ โดยในปีนี้เครือ และบริษัทในเครือฯได้ร่วมส่ง 20 ตัวแทนรุ่นคนใหม่ของกลุ่มธุรกิจในเครือฯ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์, เจียไต๋, ซีพีเอฟ, ซีพีออลล์,  แม็คโคร, โลตัส, ทรู และพีซีจี ธุรกิจอาหารสัตว์ เข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเยาวชนทั่วโลกจากหลากหลายประเทศมาร่วมกันเร่งหาทางออกร่วมสร้างโลกใบนี้ให้ยั่งยืน ในขณะเดียวกันพร้อมสร้างสรรค์สินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน

ด้าน นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟูด โซลูชัน จํากัด (มหาชน) หนึ่งในวิทยากรที่มาให้ความรู้ประเด็นวิกฤตอาหาร (Food Crisis) เปิดเผยว่า ปัญหาวิกฤตอาหารของโลก หรือ Food Crisis มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น เรื่องของสงคราม และปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้วัตถุดิบ อาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์มีปริมาณลดลง ส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น อีกสาเหตุสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จากโลกร้อนเป็นโลกเดือด ทำให้การเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตรลดลง ส่งผลให้ปริมาณอาหารที่มีในโลกลดลงตาม

ขณะที่ความต้องการปริมาณอาหารนั้นเพิ่มสูงขึ้น ปัญหาวิกฤตอาหารของโลกจึงเป็นหัวข้อหลักที่สำคัญมากๆ ที่เครือซีพีและซีพีเอฟตระหนักและมีส่วนร่วมในการทำให้ประชากรโลกมีอาหารในปริมาณมากขึ้นตามวิสัยทัศน์ครัวของโลกของซีพีเอฟ

ดังนั้นซีพีเอฟจึงได้มีการลงทุนในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลก ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปอาหาร ตลอดจนการส่งสินค้าแปรรูปจำหน่ายในช่องทางที่หลากหลายทั่วโลกเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพสูง นอกจากทำให้ปริมาณอาหารเพิ่มขึ้น ความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) ดีขึ้น ต้องทำให้ความต้องการและปริมาณที่มีสมดุลกัน

รวมถึงราคาอาหารไม่สูงเกินไป ประชากรโลกก็จะเข้าถึงอาหารในราคาที่จับต้องได้  เครือซีพีและซีพีเอฟจึงตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชากรโลกมีอาหารที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและพอเพียงต่อการบริโภคโดยคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ตัวแทนคนรุ่นใหม่ของเครือซีพีได้เข้าร่วมเวทีระดับโลกในครั้งนี้ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในเครือฯ ร่วมแลกเปลี่ยนกับเยาวชนนานาประเทศในการหาทางออกแก้ปัญหาวิกฤตโลกร่วมกัน

ขณะที่ นายกรวิชญ์ อินทวงษ์  หนึ่งในตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่สนใจในประเด็นหัวข้อวิกฤตอาหารของโลก (Food Crisis)  เปิดเผยว่า ในฐานะของคนไทยอาจจะมองว่าเรื่องอาหารเป็นเรื่องที่ไกลตัวและยังไม่เห็นถึงปัญหา เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถผลิตอาหารสำคัญของโลก แต่หากมองออกไปในต่างประเทศจะพบว่าในโซนแอฟริกาและในอีกหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตขาดแคลนอาหาร

ส่วนหนึ่งมาจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบ และหากมองกลับมาให้ใกล้ตัวมากขึ้น จะพบว่าอาหารทุกวันนี้มีราคาที่แพงขึ้นนั่นเป็นเพราะว่าการผลิตลดน้อยลงไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพืชหรือในส่วนของเนื้อสัตว์  ซึ่งหมายความว่าพวกเรากำลังเผชิญอยู่แต่แค่ไม่ได้สนใจ และในโอกาสที่จะได้ไปพบปะกับผู้นำรุ่นใหม่จากทั่วโลกในหัวข้อเดียวกันนี้  มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและได้ศึกษาวิธีการแก้ปัญหาจากประเทศนั้นๆ เพื่อนำกลับมาปรับใช้กับองค์กรรวมไปถึงในประเทศของเราได้

ด้าน นายนันทวัฒน์ นิกรพงษ์สิน หนึ่งในตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่สนใจในหัวข้อสุขภาพจิต (Mental Health) มองว่าเรื่องสุขภาพจิตนับเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่เพียงแค่กับองค์กรแต่ยังสำคัญในระดับประเทศด้วย ซึ่งตนเองเคยมีประสบการณ์ตรงเมื่อครั้งสมัยเรียนจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างหนัก ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตนเองต้องหาวิธีการรับมือเพื่อให้กลับมาเป็นปกติมากที่สุด  และในยุคนั้นสังคมยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าที่ควรปีนี้เมื่อเวที One Young World มีหัวข้อนี้ขึ้นมาตนเองจึงตัดสินใจลงสมัคร เพื่อที่จะได้มีโอกาสไปเก็บเกี่ยวและแลกเปลี่ยนประสบการณ์รวมไปถึงได้เห็นมุมมองจากผู้นำในหลากหลายประเทศว่าเขามองเรื่องของสุขภาพจิตกันอย่างไร มีวิธีการรับมือกับปัญหาและแก้ไขอย่างไร เพื่อที่เราจะสามารถนำมาปรับใช้ไม่เพียงแค่กับตนเองแต่ยังรวมไปถึงในองค์กรก็สามารถนำมาปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน

Back to top button