
KH Academy พานิสิตนักศึกษารุ่น 2 บินลัดฟ้าดูงานเวียดนาม
สถาบันการเรียนรู้ KH Academy มุ่งสร้างผู้นำยุคใหม่ พานิสิตนักศึกษาโครงการ KH Camp for Next C-Suite รุ่นที่ 2 ประจำปี 2025 บินลัดฟ้าไปศึกษาดูงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ของกลุ่มธุรกิจสัญชาติไทยในประเทศเวียดนาม
นายบูรพา สงวนวงศ์ ผู้บริหารสถาบันการเรียนรู้ KH Academy เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการ KH Camp for Next C-Suite 2025 ค่ายฝึกอบรมเชิงปฏิบัติภาคฤดูร้อนระดับผู้นำองค์กร บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นการสร้างการปลูกฝังคุณลักษณะและคุณสมบัติของการเป็นผู้นำองค์กรแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์การอย่างยั่งยืนด้วยการคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance หรือ ESG) ให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่
โดยโครงการนี้ KH Academy ได้รับความร่วมมือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คัดเลือกนิสิตนักศึกษาที่มีศักยภาพโดดเด่นจาก 3 คณะ ได้แก่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ ปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 22 คน เข้าร่วมฝึกงานกับบริษัทพันธมิตรของ KH Academy ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน), บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด, บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด, บริษัท กุดั่น แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด และ บริษัท ทีทีที แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด
โดย KH Camp for Next C-Suite 2025 มีระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. ถึง 3 ส.ค. 2568 ในช่วงสัปดาห์แรกได้มีการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิจากหลากหลายองค์กรชั้นนำ มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับนิสิตนักศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกงานในระดับผู้นำองค์กร ได้แก่ บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่มาช่วยไกด์ไลน์แนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในองค์กร รวมถึงเทคนิคการเขียนเรซูเม่ และการสัมภาษณ์งาน , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวคิด ESG รวมถึงวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มาถ่ายทอดธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจแบบสากล จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการที่นิสิตนักศึกษาได้ลงมือฝึกปฏิบัติงานจริงกับองค์กรภาคเอกชน
ก่อนจะปิดท้ายโครงการฯ ด้วยการพานิสิตนักศึกษาเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุนของภาคเอกชนไทยในประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. ถึง 3 ส.ค. 68 โดยเข้าเยี่ยมชมโรงงาน S.T. Food Marketing (STFM) ในเครือบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้ผลิตสินค้าขนมขบเคี้ยวชื่อดังของไทย อาทิ เบนโตะ เจเล่ ณ นิคมอุตสาหกรรม VSIP เมืองบินห์เซือง ในฐานะที่เป็นต้นแบบของกลุ่มธุรกิจสัญชาติไทยที่ประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยสามารถจัดตั้งฐานการผลิตในเวียดนามได้อย่างมั่นคง และบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก คุณศุภโชค บำรุงพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน SNNP ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายข้อมูลภาพรวมการดำเนินธุรกิจตั้งฐานผลิตในเวียดนาม
พร้อมทั้งเยี่ยมชมโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP โดยบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เมืองฟูเอี้ยน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เหงียน อัน ต๋วน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP เป็นผู้ให้ข้อมูลภาพรวมธุรกิจ
โดยการเดินทางศึกษาดูงานครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากคณะอาจารย์จาก 2 สถาบัน ได้แก่ ศ.ดร.สัญญา มิตรเอม คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , ผศ.ดร.อรพรรณ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและเครือข่ายพันธมิตร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร , ผศ.ดร.เอมผกา เตชะอภัยคุณ รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการและวิสาหกิจสัมพันธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , ผศ.ดร.กฤษณ์ ปัทมะโรจน์ หัวหน้าสาขาวิชาบริหารการปฏิบัติการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , อาจารย์ดร.ธนวัฒน์ ตั้งจารุศรีธราธร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาจารย์ ดร.บุษยาศจี พ่วงเงิน อาจารย์ประจำภาควิชาสถิติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอ.ชัญญา บุญญวรรณ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมเดินทางเพื่อสังเกตการณ์ พร้อมทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตัดสินการนำเสนอผลงานการฝึกปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ KH Camp for Next C-Suite 2025 เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพโดดเด่นจำนวน 2 คน ให้เป็น The Most Outstanding Candidates 2025 คว้าตั๋วไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ Business Exploration Program ยังต่างประเทศในลำดับถัดไป
“สำหรับน้อง ๆ นิสิตนักศึกษาทุกคนที่ได้เข้ามาร่วมในโครงการ KH Camp for Next C-Suite ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มที่ถูกคัดสรรด้วยกระบวนการการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ฉะนั้นในแง่ของศักยภาพไม่มีอะไรต้องถกเถียงเนื่องจากผ่านเกณฑ์การทดสอบในด้านต่าง ๆ มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ได้เห็นคือความพยายาม ความมุ่งมั่น แล้วก็ความตั้งใจ และที่สำคัญที่สุด คือวิสัยทัศน์จากคนรุ่นใหม่จากการที่ทุกคนต้องสวมบทบาทเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร นำเสนอถึงแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ตลอดจนแนวทางรับมือแก้ปัญหากับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น อันนี้เป็นส่วนที่เสริมขึ้นมา ส่วนคอร์สหลักสำคัญ KH Academy มุ่งเน้นที่เรื่องของความยั่งยืน อย่าง ESG ซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือเดียวในปัจจุบันที่ประชาคมโลกยอมรับและเห็นพ้องต้องกันว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้ภาคธุรกิจบรรลุในเรื่องของความยั่งยืนได้ และด้วยสังคมโลกที่มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องการพัฒนาบุคลากรคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเหล่านี้มาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเรา” นายบูรพา กล่าว
ด้านคณะอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวชื่นชมโครงการ KH Camp for Next C-Suite 2025 เป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการนี้ช่วยขับเคลื่อนระบบการศึกษาและเปิดประสบการณ์ให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้และเติบโตสู่การเป็นผู้บริหารระดับ C-Level ที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
“มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รู้สึกขอบคุณ KH Academy ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาของเราได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ในเรื่องของการฝึกงาน การดูงานจริง มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ เปิดมุมมองของระดับผู้บริหารองค์กรใหญ่ ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้นักศึกษาเห็นภาพว่าจริง ๆ แล้วพวกเขายังขาดอะไรอยู่ และควรจะต้องเรียนรู้ฝึกฝนอะไรเพิ่มเติมเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จในการทำงานต่อไปในอนาคต” ศ.ดร.สัญญา มิตรเอม กล่าว
ในส่วนของโครงการ KH Camp for Next C-Suite ปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 แล้ว ถือเป็นนวัตกรรมของความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างสถาบันการศึกษา บริษัท องค์กรต่าง ๆ ที่มีสื่อกลางก็คือ KH Academy ทำให้นิสิตนักศึกษาได้รับ unique experience ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม การฝึกงานในบริษัทชั้นนำ และได้รับประสบการณ์ดี ๆ จากการวิเคราะห์เคส โดยมีอาจารย์จาก 2 สถาบัน จุฬาฯ และธรรมศาสตร์ 3 คณะ มาให้คำแนะนำ โครงการนี้ทำให้เราได้เห็นเด็กวิศวะฯ พูดศัพท์แสงเรื่องบัญชี เด็กบัญชีวิเคราะห์เรื่องของประเด็นกฎหมาย เด็กกฎหมายมองผลกระทบที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจภาพรวม เป็นการประสานความรู้หลากหลายด้าน ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
ต้องขอขอบคุณ KH Academy ที่ทำให้โครงการดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้น เชื่อเหลือเกินว่าจะทำให้ศักยภาพของนิสิตนักศึกษาได้รับการพัฒนาต่อยอดยิ่งขึ้นไป และจะสร้าง positive impact ให้กับสังคมของประเทศไทยได้ค่ะ” ผศ.ดร.อรพรรณ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและเครือข่ายพันธมิตร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. ระบุ
ด้าน ผศ.ดร.กฤษณ์ ปัทมะโรจน์ หัวหน้าสาขาวิชาบริหารการปฏิบัติการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. กล่าวว่า โครงการ KH Camp for Next C-Suite สำหรับผมเรียกว่าเป็น full loop experiential learning เพราะว่ามันสมบูรณ์แบบ และมีกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในห้องเรียนที่ได้เรียนความรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ESG ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญคือเรื่องความยั่งยืนขององค์กรที่ผู้บริหารระดับ C-Level ต้องใส่ใจ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เรื่องของ case study การเยี่ยมชมกิจการ ได้พูดคุยกับผู้บริหารตัวจริง ซึ่งบอกเลยว่าโอกาสตรงนี้ยากมาก ในมหาวิทยาลัย เราเองก็ไม่สามารถที่จะสร้างให้เกิดประสบการณ์เหล่านี้ได้หมด แต่ว่าใน KH Camp บอกได้เลยว่ามีทุกสิ่ง และสุดท้ายปิดโครงการแบบประทับใจมาก ๆ คือน้องได้เตรียมเคสมานำเสนอว่าถ้าหากเค้าเป็นผู้บริหาร C-level เค้าจะสร้างสรรค์องค์กรอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานแนวคิด ESG ได้อย่างไร บอกเลยว่าต้องมาร่วมกันสำหรับรุ่นต่อไป
เช่นเดียวกับ อาจารย์ ดร.ธนวัฒน์ ตั้งจารุศรีธราธร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่ระบุว่า “KH Academy เปรียบเหมือนแรงขับเคลื่อน เป็น engine ที่ช่วยระบบการศึกษา ช่วยเปิดโอกาสให้นิสิตได้ไปเจอประสบการณ์ใหม่ให้พวกเขาได้เรียนรู้ มีการพาไป site visit บริษัทจริง ๆ มีโค้ชมาช่วยสนับสนุน ที่สำคัญกว่านั้น มีการพรีเซนต์ที่ช่วยให้นิสิตนักศึกษาที่ได้สะสมความรู้ ประสบการณ์ และได้ Analytical Skill มาด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาน่าประทับใจมาก และส่วนตัวมองว่าศักยภาพของน้อง ๆ นิสิตนักศึกษาเหล่านี้ ๆ สามารถเติบโตไปเป็นผู้บริหารระดับ C-Level ได้แน่นอน”
ด้านอาจารย์ชัญญา บุญญวรรณ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า “โครงการ KH Camp for Next C-Suite เป็นโครงการที่ดีมาก ๆ ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่เห็นว่าน้อง ๆ นิติศาสตร์ของเราสามารถตอบโจทย์เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม มีความรู้ในศาสตร์อื่น ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย ที่อยากให้นิสิตนิติศาสตร์ จุฬาฯ มีความเป็นนักนิติศาสตร์เพื่อสังคม ซึ่งทาง KH Academy ก็เข้ามาช่วยเสริมวิสัยทัศน์จุดนี้ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เรามองว่าปัจจุบันการ cross ศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น วิศวะต้องมีความรู้เรื่องการเงิน ไฟแนนเชียล เทคโนโลยีที่กำลังมา เป็นต้น ดังนั้น นิสิตนักศึกษาที่ออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปจะมีภาวะความเป็นผู้นำตอบโจทย์สังคมได้ ก็จะต้องเป็นคนที่มีความรู้รอบด้านมากขึ้น จึงคิดว่าโครงการนี้ของ KH Academy ตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ
สำหรับไฮไลท์ของโครงการ KH Camp for Next C-Suite คือการแข่งขันนำเสนอผลงานการฝึกปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของนิสิตนักศึกษา (KH Camp for Next C-Suite 2025 Final Presentation) โดยมีคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจาก 2 มหาวิทยาลัยเป็นกรรมการตัดสิน และมีการประกาศผลในพิธีปิดโครงการ KH Camp for Next C-Suite 2025 ซึ่งจัดขึ้นวันเดียวกัน คือในวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ณ ห้อง Empyrean Ballroom โรงแรม The Empyrean Nha Trang เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม บรรยากาศในงานคลาคล่ำไปด้วยบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจภาคเอกชนและภาคการศึกษาให้เกียรติมาร่วมเป็นสักขีพยานความสำเร็จของเหล่านิสิตนักศึกษา โดยมีคุณบูรพา สงวนวงศ์ ผู้บริหาร KH Academy กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมขอบคุณพันธมิตรผู้ให้การสนับสนุนสถาบันฯ ตลอดช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้น ศ.ดร.สัญญา มิตรเอม คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. ในฐานะตัวแทนคณะอาจารย์ ให้เกียรติขึ้นกล่าวให้โอวาทกับนิสิตนักศึกษา ตามด้วยคุณชาญชัย สงวนวงศ์ ผู้อำนวยการเครือหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ให้เกียรติขึ้นกล่าวปิดโครงการฯ และมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตนักศึกษา จำนวน 22 คน
ก่อนจะถึงช่วงเวลาสำคัญอย่างการประกาศรางวัล “The Most Outstanding Candidates” ประจำปี 2025 ซึ่งนิสิตนักศึกษาที่มีศักยภาพ ผลงานรวมโดดเด่นที่สุด ได้รับโอกาสในการบินลัดฟ้าไปศึกษาดูงานกับบริษัทชั้นนำที่ ได้แก่ นายกนล มงคลปทุมรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายกิตติศักดิ์ พิริยะธัญญากรม คณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีคุณกุดั่น สุขุมานนท์ ผู้ก่อตั้งและทนายความหุ้นส่วน บริษัท กุดั่น แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และคุณวลัญชทัศน์ สงวนวงศ์ Partner DFDL ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัลครั้งนี้