CBG โบรกแนะถือเป้า 105 บ. อานิสงส์ “ไฮซีซั่น” หนุนยอดขาย-ภาษีความหวานระดับ 3 ไม่กระทบ

CBG โบรกแนะถือเป้า 105 บ. อานิสงส์ "ไฮซีซั่น" หนุนยอดขาย-ภาษีความหวานระดับ 3 ไม่กระทบ ประมาณกำไรปี 66 ที่ 2,850 ล้านบาท โต 25%


บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(29 มี.ค.66) บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG คุณร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ CBG เผยสำหรับกรณีที่ครม. เก็บภาษีความหวานระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 เม.ย. 66-31 มี.ค. 68 กระทบต้นทุนราว 0.03 บาทต่อขวด บริษัทมองว่าไม่ได้กระทบอย่างมีนัยสำคัญ ยังสามารถรักษา margin ได้ดี ตอนนี้เป็นช่วง high season โดยเป็นช่วงฤดูร้อนและ CBG ยังคงราคาขายเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้มีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมที่จะออกสินค้าใหม่มาต่อยอดการเติบโตโดยมั่นใจว่ายอดขายรวมปี 66 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% มาจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตดี รวมไปถึงการร่วมทุนกับ MENA ซึ่งบริษัทได้แจ้งตลาดว่าได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน TDM (ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์) ทาง TWD ถือ 65% (CBG ถือ TWD ที่ 20%), MENA ถือ 35% เพื่อให้บริการขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ร้าน CJ More และร้านถูกดีมีมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 1,000 สาขาใน 42 จังหวัด โดยมีเป้าขยายอีกหลายพันสาขาในปี 66 จากแผนการขยาย CJ More และร้านถูกดีมีมาตรฐานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ TDM จะเริ่มให้บริการภายใน 2Q23

โดยมีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยจากประเด็นข้างต้น คาดว่าจะเห็น market share ของคาราบาวแดง ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ มี.ค. 66 เป็นต้นไปหลังคู่แข่ง 2 รายใหญ่ได้ปรับราคาขึ้นเป็น 12.00 บาท (หรือขึ้น 20%)

อีกทั้งการปรับภาษีความหวานยังกระทบจ ากัด ปัจจุบัน CBG สินค้าหลักคือ คาราบาวแดง (ขวด) เสียภาษีในอัตรา 6-8 กรัม/100 ml ภาษีน้ำตาลปรับเพิ่มเป็น 0.3 บาท/ลิตร จาก 0.1 บาท/ลิตร โดย เรามองว่ากระทบจำกัด เพียง -1% ของกำไรสุทธิปี 66

นอกจากนี้หากรายได้ปี 66 เป็นไปตามบริษัทคาดคือ โต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจะเป็น upside ต่อประมาณการ โดยคาดรายได้เติบโตเพียง 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเบื้องต้น ยังคงประมาณกำไรสุทธิปี 66 ที่ 2,850 ล้านบาท โต 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ยังไม่ได้รวม equity income ที่เพิ่มขึ้นจากTWD จากเคสการถือหุ้น TDM และ market share ของคาราบาวแดงที่จะเพิ่มขึ้นจากการปรับราคาของคู่แข่งในประมาณการ คงแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมาย 105.00 บาทอิง PER 36.8x (ใกล้เคียง -0.75 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) อย่างไรก็ตามมีโอกาสปรับประมาณการและคำแนะนำขึ้น หลังได้อัพเดทตัวเลข market share จากทาง CBG

Back to top button