แรงเก็งกำไร “กลุ่มแบงก์-อิเล็กฯ” ดัน SET ปิดเช้าบวก 7 จุด

SET ปิดเช้าบวก 7 จุด รับแรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หนุน คาดแนวโน้มตลาดช่วงบ่ายแกว่งกรอบแคบๆ ให้แนวรับที่ 1,678-1,685 จุด แนวต้านที่ 1,686-1,690 จุด


10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,682.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 39,548.48 ล้านบาท           

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังงบการเงินธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ในไตรมาส 1/65 ออกมาดี และคาดว่าวันนี้ KBANK, BBL, KTB, TTB จะประกาศงบการเงิน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond yield)ขึ้นมาสูงที่ 2.9% ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี 4 เดือน หนุนงบการเงินของกลุ่มธนาคารให้ดีต่อเนื่อง และยังมีแรงซื้อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รับเงินบาทอ่อนค่า

แต่ก็มีแรงขายกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบโลกร่วง 5% สลับกับกลุ่มเปิดเมือง หลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลช่วงสงกรานต์

สำหรับในช่วงบ่ายแนวโน้มการลงทุนน่าจะแกว่งแคบๆ ให้แนวรับที่ 1,678-1,685 จุด แนวต้านที่ 1,686-1,690 จุด

โดยติดตามสถานการณ์การคลายล็อกดาวน์ในจีน การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันที่ 3-4 พ.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ที่อาจปรับตัวสูงขึ้น และรอเก็งกำไรงบบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/65 โดยคาดว่าในเดือนเม.ย.นี้ดัชนี SET น่าจะแกว่งในกรอบ 1,665-1,700 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,371.72 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,685.71 ล้านบาท ปิดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,092.38 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 968.37 ล้านบาท ปิดที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 943.40 ล้านบาท ปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

Back to top button