ต่างชาติเทขาย “บิ๊กแคป” ฉุด SET ปิดร่วง 30 จุด แนวโน้มพรุ่งนี้ลงต่อ

SET ปิดรูด 30 จุด หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปีคงสูงนาน รวมถึงสงครามตะวันออกกลางตึงเครียดมากขึ้น รวมถึงฟันด์โฟลว์ไหลออก หลังค่าเงินบาทอ่อนค่า จากความไม่ชัดเจนของเกณฑ์นโยบายเงินดิจิทัล แนวโน้มพรุ่งนี้ลงต่อ โดยให้แนวรับแรกไว้ที่ 1,360 จุด และแนวรับถัดไป 1,350 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,385 จุด


10 หุ้นกดดัชนีวันนี

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,371.22 จุด ลดลง 30.48 จุด (-2.17%) มูลค่าซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,371.22 จุด ลดลง 30.48 จุด (-2.17%) มูลค่าซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท

นางสาว ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงไปกว่า 30 จุด รับแรงกดดันทั้งนอกประเทศและในประเทศ โดยกังวลดอกเบี้ยสหรัฐยืนในระดับสูงยาวนาน หลังยอดขายบ้านใหม่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดมาก ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นไทย ขณะเดียวกันสถานการณ์ในตะวันออกกลางก็กลับมาตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

ส่วนในประเทศ รัฐบาลได้มีการประกาศเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมา 3 แนวทาง โดยจำกัดสิทธิคนรวย แต่ยังต้องรอความชัดเจนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Spending ประกอบกับเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ยังไหลออกต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ รีบาวด์ทางเทคนิค และด้วยปัจจัยลบรุมเร้า ยังให้น้ำหนักอิงทางขาลงอยู่ แนะติดตามการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2566 ของสหรัฐ ในคืนนี้ ตลาดคาดไว้ที่ 4.5% หากออกมาดีจะหนุนเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง และหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่หากปรับขึ้นดอกเบี้ย จะสร้างแรงกดดันต่อตลาดเพิ่มเติม

ทั้งนี้  ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำลงทุนหุ้นรายตัว ที่มีปัจจัยเฉพาะตัว หรือเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 3/66 ที่คาดออกมาดี รวมถึงเลือกสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาถูก หรือ Valuation ไม่แพง และมีปันผล ซึ่งจะช่วยลดดาวน์ไซด์ได้บ้าง โดยให้แนวรับแรกไว้ที่ 1,360 จุด และแนวรับถัดไป 1,350 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,385 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,944.16 ล้านบาท ปิดที่ 97.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,474.73 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,463.25 ล้านบาท ปิดที่ 72.25 บาท ลดลง 8.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,007.49 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,663.40 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

Back to top button