งวด 9 เดือนปี 2568

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 /2568 และงวด 9 เดือนแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 25687 พบว่ามีกำไรสุทธิ ดังนี้ สำหรับ PTT รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19,783.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16,323.62 ล้านบาท เป็นผลมาจาก EBITDA ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ประกอบกับการรับรู้กำไรพิเศษ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. ราว 900 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ขณะที่ในไตรมาส 3/2567 มีผลขาดทุนพิเศษประมาณ 9,500 ล้านบาท จากส่วนแบ่งขาดทุนของบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTTAC) โดยในไตรมาส 3/2568 ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA รวม 85,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,877 ล้านบาท หรือ 24.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 68,892 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจการกลั่นที่ฟื้นตัวจากกำไรสต๊อกน้ำมันสุทธิราว 1,700 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสต๊อกน้ำมันกว่า 20,000 ล้านบาทในปีก่อน รวมถึง Market GRM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ปริมาณขายลดลง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจปิโตรเคมียังเผชิญแรงกดดันจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบในกลุ่มโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ลดลง ขณะที่กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีรายได้ลดลงตามราคาน้ำมันตลาดโลก ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลงจากปริมาณและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง โดยเฉพาะธุรกิจจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการนำเข้า LNG ของผู้ได้รับใบอนุญาตรายใหม่ (New Shippers) ที่เพิ่มขึ้น สำหรับรายได้จากการขายรวมของ ปตท. และบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 646,689 ล้านบาท ลดลง 115,169 ล้านบาท หรือ 15.1% จากปีก่อนที่ 761,858 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งการค้าระหว่างประเทศ ปิโตรเคมีและการกลั่น น้ำมันและการค้าปลีก รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติและโรงแยกก๊าซฯ ที่มีรายได้ลดลงตามราคาผลิตภัณฑ์และความต้องการของลูกค้าหลัก โดยเฉพาะ LPG และ Propane ที่ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสดังกล่าว ขณะที่งวด 9 เดือนปี 68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 64,631.73 ล้านบาท ลดลง 19.97% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 80,760.51 ล้านบาท