นิกรเดชพลางกูร

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานวันนี้ (12 ก.ย. 2568) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงต่อต้านการทุจริตในเนปาลในสัปดาห์นี้ เพิ่มเป็น 51 ราย ประกอบด้วยผู้ประท้วง 21 คน นักโทษ 9 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คน และอีก 18 รายที่ยังไม่ชัดเจนว่ามาจากฝ่ายใด ขณะที่มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน ขณะเดียวกัน มีนักโทษราว 13,500 คนหลบหนีจากเรือนจำหลายแห่งทั่วประเทศระหว่างเหตุวุ่นวาย ตำรวจสามารถจับกุมได้บางส่วน ส่วนที่เหลือกว่า 12,500 คนยังคงอยู่ระหว่างการติดตามตัว ผู้ชุมนุมกลุ่ม “Gen Z” ได้เสนอชื่อ นางสุชีลา คาร์กี (Sushila Karki) อดีตประธานศาลฎีกาหญิง ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยมีแหล่งข่าว คาดว่า จะมีการประชุม ณ ที่พักอาศัยของประธานาธิบดี (President’s residence) เพื่อแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12 กันยายน 2568 อย่างไรก็ดี ยังไม่มีประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า คาร์กีได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าว กต. ระบุคนไทยในเนปาลปลอดภัย ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เหตุประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นจากความไม่พอใจของประชาชน หลังรัฐบาลประกาศห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ จนนำไปสู่การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน “Gen Z” และทำให้ทางการใช้มาตรการด้านความมั่นคงเข้มงวด ส่งผลให้เกิดความสูญเสีย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงการลาออกของนายกรัฐมนตรี และการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ โฆษก กต. ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประกาศเตือนคนไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตต้องปฏิบัติงานจากที่บ้านเนื่องจากคำสั่งเคอร์ฟิว แต่ยังสามารถติดต่อกับคนไทยในพื้นที่ได้ตลอดเวลา โดยล่าสุดมีชาวไทยที่พำนักในเนปาล ทั้งชั่วคราวและถาวร ราว 100 คน ซึ่งทั้งหมดปลอดภัยดี ทั้งนี้ สนามบินนานาชาติทริภูวันยังคงเปิดทำการตามปกติ และสายการบินต่าง ๆ ได้กลับมาให้บริการแล้ว พร้อมแนะนำให้คนไทยที่มีแผนการเดินทาง ตรวจสอบและยืนยันเที่ยวบินกับสายการบินโดยตรง อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “กองทัพเนปาล” ประกาศเคอร์ฟิว คุมม็อบ “Gen Z” หลังเสียชีวิต 25 บาดเจ็บ 600 ราย