ปภาวะตลาดต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบเนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,835.51 จุด เพิ่มขึ้น 38.05 จุด หรือ +0.14% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,978.43 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ -0.01% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,087.44 จุด ลดลง 15.64 จุด หรือ -0.19% ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) นำโดยตลาดหุ้นอังกฤษซึ่งหุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลธ์แคร์, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างมากในปีนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.28% ปิดที่ 386.06 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,588.95 จุด ลดลง 15.04 จุด หรือ -0.27% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,235.81 จุด ลดลง 46.53 จุด หรือ -0.64% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,226.10 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด หรือ +0.28% ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นหลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,235.81 จุด ลดลง 46.53 จุด หรือ -0.64% สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ของซาอุดีอาระเบียให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าลดการผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 57.85 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 62.59 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำในระหว่างวัน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,511.1 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.8 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 18.167 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 952.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,536.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่า มีแนวโน้มลดน้อยลงที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า รัฐบาลเยอรมนีจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลัง ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1052 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1028 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2345 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2292 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6862 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6847 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.15 เยน จากระดับ 106.89 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9917 ฟรังก์ จากระดับ 0.9880 ฟรังก์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3163 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3174 ดอลลาร์แคนาดา