หุ้นปัน

วานนี้เป็นอีกครั้งที่มีโทรศัพท์ร้อยท่อต่อสายตรงมาที่ “ข่าวหุ้น” พรึ่บพรับจนสายเกือบไหม้ เพราะประเด็นที่จั่วหัว “เท้าแชร์หุ้นเบี้ยวเงินปั่นไอพีโอ” เพราะทุกคนอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดมีต้นสายปลายเหตุมาจากตรงไหน? และเรื่องราวดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง? หลังข่าวเม้าท์ที่พรั่งพรูออกมาเรื่อย ๆ มันกระทบกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของกิจการ ที่ปรึกษาการเงิน ผู้จัดจำหน่ายหุ้น ขาใหญ่ตลาดหุ้น แมงเม่าเงินหนา หรือแม้กระทั่งโบรกเกอร์ ก็โดนสะเก็ดระเบิดที่เกิดขึ้นกับหุ้น PSP แบบเต็ม ๆ ไงล่ะคะ ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” แยกสิ่งที่เกิดขึ้นออกเป็น 3 ก๊ก เพื่อทำให้ทุกคนเห็นภาพความฟอนเฟะที่เกิดจากเล่ห์เหลี่ยมของคนโกงที่ใช้ความโลภมาเป็นตัวล่อแมงเม่า ซึ่งในที่นี้ประกอบไปด้วย “ขาใหญ่”-“วงแชร์หุ้น”-“โบรกเกอร์” ซึ่งแต่ละองคาพยพก็มีประโยชน์แอบแฝงด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่ายจะพูดให้ตัวเองดูดีขนาดไหน? และสังคมจะเลือกเชื่อใคร? เดี๊ยนจึงไม่ขอเป็นคนตัดสินเจ้าค่ะ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในส่วนของ “ขาใหญ่” ที่หลายคนไปฝากความหวังไว้กับจอมพริ้วอย่าง “อ้วน” จะเป็นคนดันหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตูนั้น มันเป็นเรื่องที่บ้าบอเหลือเกิน เพราะที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีว่า หล่อนลุกก่อนใครเป็นประจำ! “โมนิก้า” ถึงสงสัยว่า ถ้าพวกอีพ่ออีแม่ไม่เปิดช่องให้หล่อนเข้ามา หล่อนจะเข้ามาได้อย่างไร? หรือว่าแอบเปิดประตูหลังรอรับล่ะพ่อคุณ! งานนี้โทษใครไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะถ้ามองในมุมของเกมหุ้นที่ก๊วนนี้เล่นกันเป็นประจำ “โมนิก้า” ถือเป็นการชิงเหลี่ยมของคนที่ร่วมขบวนการ และพวกที่อ่อนต่อโลกมักลงเอยด้วยการถูกสังเวย จึงมีเสียงร้องครวญครางดังระงมไปทั้งตลาดหุ้น เดี๊ยนเลยสงสัยว่า เรื่องนี้มันน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตั้งวงแชร์หุ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสืบสาวราวเรื่องราวกันต่อไปนะตัวเอง ที่น่าสนใจคือ ถ้ามองในมิติของการรับลูกกันเป็นทอด ๆ มันทำให้เชื่อว่า ก๊กแรกน่าจะมีลักษณะไม่เหนียวแน่นกับบรรดานายใหญ่ของก๊กสอง ถึงทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับก๊วนวงแชร์หุ้นมันหนักเหลือเกิน และทำให้คนที่เป็นเท้าแชร์หุ้นต้องปัดสวะให้พ้นตัวเองไปก่อน ส่วนพวกแมงเม่าเงินหนาก็ได้แต่ภาวนาให้เท้าแชร์ติดต่อหลังไมค์..ไม่ใช่มีแต่คำว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” นะคุณ..เออ! ปัญหาดังกล่าวน่าจะจบลงตรงนั้น! แต่ดันมีปัญหาเกิดขึ้นกับก๊กสามเสียอย่างนั้น! และก๊กที่สามก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นบรรดาโบรกเกอร์ที่หวังจับปลาใหญ่ด้วยการปล่อยมาร์จิ้นให้กับขาใหญ่ที่เข้ามาเล่นแบบจุใจ ซึ่งในช่วงแรกที่หุ้นขึ้นดี ทุกคนก็แฮปปี้กันถ้วนหน้า แต่ทันทีที่มีการสาดหุ้นแบบไม่รู้ใครเป็นใครเกิดขึ้น ก็เริ่มมีการมองหน้ากันเลิ่กลั่ก..ใครเป็นคนทำ? ไงล่ะคะ ตรงนี้เป็นปรากฏการณ์ในช็อตแรกที่หุ้นลงฟลอร์ 2 วันติด ซึ่งเป็นการดิ่งลงจากบริเวณ 13 บาท มายืนทรง ๆ ที่บริเวณ 8 บาท ต่อจากนั้นมีความพยายามงัดหุ้นขึ้นมาสักระยะ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลเหมือนที่เท้าแชร์หุ้นตั้งใจ เพราะหุ้นขึ้นมายืนได้แค่ 9.60 บาทระยะสั้น ๆ ต่อจากนั้นก็ถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ จนไหลลงหนักในช่วงที่หลุด 8 บาท จนเกิดปรากฏการณ์ฟลอร์ 3 วันติด ซึ่งเป็นช็อตสองที่ทำให้โบรกเกอร์กระเทือนซางไงล่ะคะ เนื่องจากแมงเม่าเงินหนา (เล่นสองหน้า) ก็ถูกจับขายแบบฟอร์ซเซลทั้งกระบิ และแมงเม่าเงินหนาเริ่มมีการบ่ายเบี่ยงที่จะต้องหาเงินมาชดใช้ จนโบรกเกอร์ต้องขู่ใช้ไม้แข็งทางกฎหมายเข้ามาจัดการกับคนพวกนี้ และเรื่องดังกล่าวก็ทำท่าจะจบลงด้วยดี แต่ก๊วนแมงเม่าเงินหนาก็ดันก่อเรื่องขึ้นอีก เพราะพวกพรี่..พรี้ ดันทะลึ่งเข้าไปมั่วตะลุมบอนในหุ้นไอพีโอน้องใหม่ WINDOW และทำท่าจะชักดาบเหมือนครั้งก่อนเสียด้วยจ้า! ว่ากันว่า มีโบรกเกอร์อย่างน้อย 2-3 แห่งที่โดนพวกแมงเม่าเงินหนาก๊วนนี้เล่นแง่ แต่สุดท้ายก็ทยอยเคลียร์เงินไปเรื่อย ๆ จนมีการสืบสาแหรกของก๊วนนี้เป็นมาอย่างไร? และในที่สุดก็พบว่า พวกนี้เป็นก๊วนเด็กอินเตอร์ ที่มาจากรั้วมหาลัย “MUIC” ซึ่งมีทั้งลูกเศรษฐี และนักธุรกิจใหญ่ และชื่อนี้จะถูกโจษขานไปอีกนาน (จำกันไว้ให้ดี) เพราะฝีไม้ลายมือของพวกพรี่..พรี้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ นะตัวเอง เรื่องทั้งหมดเลยเอวังเพียงเท่านี้!..ส่วนใครจะมีอะไรชี้แจงก็หลังไมค์ น้องโมยินดีเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกฝ่ายค่ะ