อะไหล่รถ

บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัด จำนวนรวม 1,070,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย หุ้นละ 2.20 บาท และได้รับชำระค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 จำนวนเงินสุทธิ 2,344.5 ล้านบาท (หลังจากหักค่าธรรมเนียม การจัดจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง) ทั้งการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนรวม 347,374,889 หุ้น ตามใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นสามัญเพิ่มทุน สำหรับ ผู้ถือหุ้นเดิม NEX - W2 มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และได้รับชำระค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 จำนวนเงินสุทธิ 347.4 ล้านบาท อีกทั้ง การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนถือหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO) จำนวนรวม 666,618,469 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และได้รับชำระค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวนเงินสุทธิ 663.2 ล้านบาท (หลังจากหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง) รวมไปถึงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนถือหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Right Offering: RO) จำนวน รวม 3,327,231,105 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และได้รับชำระค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 จำนวนเงินสุทธิ 3,324.4 ล้านบาท (หลังจากหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง) ทั้งนี้ จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด ตามข้างต้น บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนสุทธิทั้งสิ้น 6,679.5 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ขอแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ดังต่อไปนี้ โดยบริษัท ได้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทและชำระเจ้าหนี้การค้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน จำนวน 4,929.5 ล้านบาท ทั้งยังนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายและต่อยิดธุรกิจรถบัสโดยสาร จำนวน 1,000 ล้านบาท พร้อมนำไปเป็นเงินทุนซ่อมแซมและบำรุงรถบัสโดยสาร จำนวน 300 ล้านบาท นำไปชำระค่าซื้อทรัพย์สิน จำนวน 220 ล้านบาท อีกทั้งชำระหนี้ตราสารหนี้ระยะสั้น จำนวน 30 ล้านบาท รวมไปถึงใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในกลุ่มบริษัทย่อย จำนวน 200 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 6,679.5 ล้านบาท