TNP ลุ้นเหนือจอง ด้านผู้บริหาร-FA มั่นใจพื้นฐานแกร่ง!

TNP เทรดวันแรก ลุ้นทะลุ 2 บ. มีราคาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) 5 นาที อยู่ที่ 1.77 บาท โดยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายก่อนเปิดตลาดประมาณ 37.10 ล้านหุ้น ด้านฝั่งซื้อ (Bid) ประมาณ 20 ล้านหุ้น ส่วนฝั่งขาย (Offer) ประมาณ 22 ล้านหุ้น ขณะที่ ผู้บริหารมั่นใจเปิดเหนือจองแน่นอน โดยมี บริษัท บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ราคาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) 5 นาทีอยู่ที่ 1.77 บาท โดยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายก่อนเปิดตลาดประมาณ 37.10 ล้านหุ้น ด้านฝั่งซื้อ (Bid) ประมาณ 20 ล้านหุ้น ส่วนฝั่งขาย (Offer) ประมาณ 22 ล้านหุ้น ขณะที่ ผู้บริหารมั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง เปิดเหนือจองแน่นอน โดยมี บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 1.75 บาทต่อหุ้นได้ เนื่องจาก TNP เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพแข็งกร่ง ในฐานะผู้นำร้านค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยในจังหวัดเชียงราย ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

ด้านนายรัฐชัย  ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอของ TNP  เปิดเผยว่า TNP จะสามารถยืนเหนือราคาจองที่  1.75 บาทได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากการกำหนดราคาไอพีโอมีส่วนลดให้นักลงทุนในระดับที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ 21 เท่า มีส่วนลดประมาณ  30% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่บทวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ช่วงราคา 2.20–2.50 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E เฉลี่ยที่ 28 เท่า ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงเทรดอยู่ที่ P/E เฉลี่ย 32 เท่า ประกอบกับ TNP เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพพร้อมที่จะขยายสาขาต่อไปอย่างมั่นคงในอนาคต

สำหรับในไตรมาส 3/58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.68 ล้านบาท ลดลง 4.67 ล้านบาท หรือลดลง 37.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 12.35 ล้านบาท และงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.44 ล้านบาท ลดลง 10.51 ล้านบาท หรือลดลง 331.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 32.95 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิลดลงเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จากการเปิดสาขาและเพื่อรองรับการเปิดสาขาใหม่ของบริษัท

Back to top button