หุ้นกลัวม็อบ?

อาการที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยช่างตลกมาก ๆ เพราะทันทีที่มีข่าว “พ่อส้ม” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน อันเป็นผลมาจาก กกต. มีมติชงเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญฟันพ้น ส.ส. ปมถือหุ้น ITV


อาการที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยช่างตลกมาก ๆ เพราะทันทีที่มีข่าว “พ่อส้ม” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน อันเป็นผลมาจาก กกต. มีมติชงเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญฟันพ้น ส.ส. ปมถือหุ้น ITV พร้อมกับให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ทำให้ตลาดหุ้นเด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังทำให้หุ้นการเมืองออกมาโลดแล่นกันเป็นแถวแบบนี้ เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ตลาดหุ้นไม่ชอบด้อมส้มเอามาก ๆ นะจะบอกให้

ถัดจากนั้นไม่นาน! อาการกระดี๊กระด๊าก็หายไปดื้อ ๆ หลังแกนนำม็อบประกาศให้บรรดาด้อมส้มรวมตัวตอนเย็นเพื่อต่อต้านมติ กกต. ส่งผลให้ดัชนีหัวปักลงอย่างรวดเร็ว เพราะรับรู้ได้ทันทีว่า เกมนี้ลากยาวอย่างแน่นอน และจะมีม็อบลงถนนครั้งใหญ่ จึงชิงเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบนี้ “โมนิก้า” เลยสังหรณ์ใจว่า ดัชนีจะลงไปลึกกว่าโลว์ครั้งก่อนที่ทำไว้แถว 1,561 จุดน่ะซี

ฉะนั้นการที่ดัชนีพยายามประคองตัวไม่ให้ลงแรง แต่สุดท้ายยืนปิดไปที่ระดับ 1,491.14 จุด ลบไป 5.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.22 หมื่นล้านบาท มันคือสัญญาณเตือนภัยที่ทำให้นักเล่นต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกขนาดใหญ่อีกครั้ง และเที่ยวนี้ก็พอเดาเกมได้ว่า ตลาดหุ้นเละอีกแน่! เพราะความวุ่นวายจะลุกลามในวงกว้าง จึงเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้นักลงทุนต้องถอยจากตลาดหุ้นเป็นการชั่วคราวไงล่ะคะ

งานนี้ใครจะกลัว..ก็กลัวไป แต่สำหรับหุ้นการเมืองตัวพ่ออย่าง GULF ก็ไม่หวาดหวั่นแต่อย่างใด และทะยานสวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 47.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.31 พันล้านบาท ซึ่งเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกันต้องเผื่อใจไว้บ้าง เพราะสถานการณ์ทางการเมืองวันนี้จะดุเดือดกว่าวันก่อน ๆ เจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ SIRI ก็วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.87 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 709 ล้านบาท ท่ามกลางความเชื่อว่าที่นายกฯ ใกล้เป็นจริงแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของอารมณ์ที่พากันไปล้วน ๆ จึงต้องดูกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะเป็นจริงแค่ไหน? เพราะพรรคเพื่อไทยก็เล่นเกมสองหน้ามาตั้งแต่ต้น น้องโมเลยขอดูฉากละครน้ำเน่าไปทีละช็อตนะตัวเอง

ส่วนรายที่ลอยตัวอยู่กลาง ๆ และไม่ค่อยแคร์อะไรมากนัก “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น ADVANC ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นการเมืองที่ “ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย” กับความเป็นไปทางการเมืองสักเท่าไหร่? ซึ่งเห็นได้จากตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. จนถึงกลางเดือน ก.ค. ราคาหุ้นก็แกว่งตัวไปมาในกรอบ 210-220 บาท เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ 217 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาทไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นจ้า!

สำหรับรายที่น่าเป็นกังวล “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นบัตรเครดิต KTC ก่อนใครเพื่อน เพราะการที่หุ้นลงไปทำโลว์ที่ระดับ 40.50 บาท ท่ามกลางข่าวเม้าท์กำไรลด และหนี้เสียบาน มันทำให้เชื่อว่า ราคาหุ้นน่าจะอ่อนตัวลงไปอีก แต่สุดท้ายมีแรงซื้อเข้ามาดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 46.25 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.65 พันล้านบาท พร้อมกับมีบิ๊กล็อตที่ราคา 43.63 บาทแบบนี้..มันกลายเป็นหนังคนม้วนเลยนะคะ

เช่นเดียวกับในรายของ JMT ซึ่งหัวเรือใหญ่ออกมา “ยืนยัน นั่งยัน” ปีนี้ผลงานโตตามเป้า และมาตรการของ ธปท. ไม่กระทบกับการทำธุรกิจ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองคิดดี ๆ อีกครั้งว่า การที่หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 33 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.46 พันล้านบาท เกินไปไหม? เพราะมาตรการของแบงก์ชาติเน้นให้ความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียของแบงก์เป็นหลัก ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับบริษัทซื้อหนี้นะพ่อคุณ!

ตบท้ายกันที่หุ้น PTG เพื่อชี้ให้เห็นแรงขายที่ออกมาถล่มทลายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นลงมาปิดโลว์ของวันที่ระดับ 10.40 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 10.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 512 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 3 ปี 3 เดือน เหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่า สถานการณ์ของบริษัทไม่ปกติอย่างแน่นอน และมีความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีกนะนายจ๋า!

Back to top button