5 หุ้นชนะตลาด

ในเมื่อทุกคนเชื่อว่า ความตึงเครียดเรื่องเทรดวอร์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ พราะคนบ้าอำนาจอย่าง “สหรัฐฯ” ยอมกลืนน้ำลาย


ในเมื่อทุกคนเชื่อว่า ความตึงเครียดเรื่องเทรดวอร์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะคนบ้าอำนาจอย่าง “สหรัฐฯ” ยอมกลืนน้ำลาย เพื่อจะได้พูดคุยอย่างเป็นทางการกับ “จีน” หลังรู้ตัวว่า ตัวเองเป็นคนสร้างความบรรลัยให้กับทั่วโลก จึงต้องรีบออกมาแก้ปมปัญหาที่ตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมาแบบนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกถึงขานรับด้วยการดีดตัวขึ้นแดนบวกกันเป็นแถวไงล่ะคะ

งานนี้ทุกคนภาวนาให้การเจรจาบรรลุผลสำเร็จทั้ง 2 ฝ่าย เพราะการขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,200 จุดของตลาดหุ้นไทย ล้วนมาจากประเด็นดังกล่าวเป็นสำคัญ “โมนิก้า” จึงขอล้อตามกระแสดังกล่าวด้วยการฉายภาพเหตุการณ์ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยังมีกลุ่มหุ้นที่ชนะตลาดขาลงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยดูได้จากในช่วงต้นปีดัชนียืนที่ระดับ 1,379.85 จุด ขณะที่สิ้นเดือน เม.ย. ดัชนียืนอยู่ที่ระดับ 1,197.26 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงราว 13% เชียวนะ

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดที่เห็นชัด ๆ คือ ตลาดหุ้นไทยยืนปิดที่ระดับ 1,206.59 จุด ลบไป 13.68 จุด ดวยมูลค่าการซื้อขาย 4.26 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังเป็นระดับที่สูงกว่าในช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมิน “5 หุ้นชนะตลาด” น่าสนใจจริงไหม? หลังตัวเลขที่แสดงออกมายืนยันถึงแรงซื้อมีเข้ามาต่อเนื่อง อีฉันเลยมองเป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ ที่แฟนคลับขาลุยไม่ควรพลาดช็อตสำคัญเช่นนี้นะจะบอกให้

โดยเฉพาะตัวแรงของตลาดหุ้นไทยอย่าง NCAP ถือเป็นช็อตที่ทำให้อีฉันอ้าปากค้างเป็นเวลานาน เพราะเมื่อดูเปอร์เซ็นต์การปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาสูงถึง 85% เหมือนการันตรีว่า หุ้นตัวนี้จะเล่นกันอีกนานแน่ ๆ และเรื่องนี้ถูกตอกย้ำอีกครั้งแบบจัง ๆ หลังวานนี้หุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.70 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 15.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาทแบบชิล ๆ น่ะซี

อีกหนึ่งตัวตึงที่ติดทำเนียบหุ้นขึ้นแรงเป็นประจำ คงต้องกวาดสายตาไปที่หุ้น TFG เป็นรายถัดมา หลังตัวเลขฟ้องว่า หุ้นตัวนี้ปรับตัวขึ้นถึง 58% ซึ่งเป็นผลมาจากยอด “ขายหมู ขายไก่” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่วานนี้หุ้นทำได้แค่ประคองตัวปิดที่ระดับ 5.35 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่าแบบนี้ ยังน่าเล่นต่อไหมจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ BTG ก็เป็นหุ้นอีกตัวที่มาแนวเดียวกับรายข้างต้น “โมนิก้า” จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้ฟังมากมาย แค่บอกให้นักเล่นรู้ว่า หุ้นตัวนี้ขึ้นมาแล้ว 26% และต่อจากนี้เป็นเรื่องที่นักเล่นต้องประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 24.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 19 เท่า ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งได้อีกไหมเอ่ย?

ส่วนรายที่เป็นหุ้นขวัญใจแมงเม่าอย่าง TEAMG ถือเป็นทีเด็ดที่ “โมนิก้า” มีความชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มักใช้บริการบริษัทนี้เป็นประจำ จึงเชื่อได้ว่า ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตต่อเนื่อง อีฉันเลยไม่แปลกใจที่หุ้นปรับตัวขึ้น 20% ในช่วงที่ผ่านมา แต่กระนั้นก็ต้องเข้าใจวงรอบขึ้นลงของหุ้นยังเป็นแบบ W-Shape ในกรอบ 2.60-3.40 บาท จึงต้องประเมินการยืนปิดที่ระดับ 3.10 บาท คุ้มค่าที่จะเล่นไหม?

ตบท้ายกันที่หุ้น AIE เพื่อชี้ให้เห็นทิศทางน้ำมันปาล์มที่ทรงตัวในระดับสูง มันทำให้หุ้นตัวนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผนวกกับช่วงที่ผ่านมามีการอัดปันผลแบบจุก ๆ หุ้นละ 0.25 บาท ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วง 4 เดือนปรับขึ้นถึง 16% “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนช่วยประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1.40 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 8 เท่า น่าสนใจอ๊ะป่าว?

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button