JAS ลั่นยิงสด “พรีเมียร์ลีก” ปั้นรายได้ปีนี้ทะลุหมื่นล้าน-MONO มั่นใจเทิร์นอะราว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในฐานะผู้ได้ลิขสิทธิ์จาก The Football Association Premier League Limited (Premier League) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ตลอด 6 ฤดูกาล ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย  ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาอย่างเต็มรูปแบบ โดยเริ่มถ่ายทอดสดฤดูกาล  2025/26 ในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 ครั้งแรกร่วมกับ บริษัท  โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ได้จัดงานแถลงข่าวสุดยิ่งใหญ่ในธีม “New Season New Home” เพื่อประกาศความพร้อมในการถ่ายทอดสดลีกฟุตบอลระดับโลก “พรีเมียร์ลีก-เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ” ทั้งสดและย้อนหลัง โดยผ่านแอปพลิเคชั่น Monomax  เป็นช่องทางหลักและดิจิทัลแพลตฟอร์ม  AIS PLAY บนโครงข่ายอัจฉริยะทั้งมือถือและเน็ตบ้านคุณภาพที่ครอบคลุมทั่วประเทศพร้อมการเปิดตัวราคาแพ็กเกจสุดพิเศษ

นอกจากนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากนายพิชญ์  โพธารามิก ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่มจัสมินและกลุ่มโมโน  ร่วมด้วย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์   ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  เข้าร่วมงาน  พร้อมด้วยผู้บริหารกลุ่มจัสมิน นำโดย คุณวีรยุทธ โพธารามิก ประธานกรรมการ, ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,นายธัญญพัฒน์ นิรุตติศาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์องค์กร  บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน),นายนวมินทร์ ประสพเนตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,นายบรรณสิทธิ์ รักวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน), นางธัญญา วชิรบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายการและผู้อำนวยสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29, นางสาวหทัยทิพย์ หมัดจุ้ย ผู้อำนวยการธุรกิจดูหนังออนไลน์ หรือ Monomax  เข้าร่วมงานอย่างชื่นมื่น

สำหรับการเปิดตัวราคาแพ็กเกจการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ตลอด 6 ฤดูกาลอย่างเป็นทางการมีดังนี้

“MONOMAX Standard” แบบรายเดือน  299 บาทต่อเดือน , สมัครแพ็กเกจ “MONOMAX Standard”  แบบรายปี 2,999 บาทต่อปี สามารถซื้อผ่านช่องทาง Google Play Store และ Apple Store

สำหรับลูกค้า AIS เปิดราคาแพ็กเกจ “MONOMAX Standard” ในราคาที่คุ้มที่สุดเท่าที่เคยมีมาประกอบด้วยแพ็กเกจรายเดือน ราคา 199 บาท (จากปกติ 299 บาท) สมัครกด *899 โทรออก ส่วนแพ็กเกจรายปี ราคา 1,999 บาท (จากปกติ 2,999 บาท) สมัครกด *899*1 โทรออก

ส่วนลูกค้า AIS ทั้งมือถือระบบรายเดือนและเติมเงิน รวมถึงลูกค้าเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE 3 ทั้งลูกค้าปัจจุบัน ลูกค้าใหม่ ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม ทั้งลูกค้าจดทะเบียนบุคคลและนิติบุคคล โดยรับชมถ่ายทอดสดทั้งฤดูกาลที่ AIS PLAY พรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์ ชมสดมากถึง 11 ช่อง ภาพคมชัดระดับ Full HD

ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมได้ทุกคู่ ทุกแมตช์ ทั้งการถ่ายทอดสดและชมย้อนหลัง ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวีหรือเว็บไซต์ โดยราคาข้างต้นนี้สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 สิงหาคม 2568 และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ผู้ชมที่มีแพ็กเกจ “MONOMAX Standard” จะได้รับชมการถ่ายทอดสด FIFA CLUB WORLD CUP จำนวน 51 แมตซ์ เริ่มประเดิมวันที่ 18 มิถุนายนนี้ เวลา 23.00 น. ทันที

ด้านดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่าการที่ JAS ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก-เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกมาครอบครองได้สำเร็จ  เป็นความมุ่งมั่นที่ต้องการถ่ายทอดคอนเทนต์กีฬาระดับโลกให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ ซึ่งตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก และคาดว่ารายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยฤดูกาล 2025/26 จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 พร้อมรับชมทั่วประเทศ ผ่านทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Monomax

“สำหรับการคาดการณ์จำนวนสมาชิกหากสามารถทำยอดสมาชิกได้ถึง 3 ล้านราย จะเป็นระดับที่สร้างกำไรทันที ขณะที่ระดับ 2 ล้านรายถือว่าอยู่ได้แบบยั่งยืน โดยประเมินรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษและเอฟเอคัพประมาณ 5,500-6,500 ล้านบาทต่อปี และจะเริ่มรับรู้ได้ในไตรมาส 3/68 และคาดว่าผลงานไตรมาส 3/68 จะพีกกว่าปีก่อน การรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้ไม่ได้มองเพียงกำไรระยะสั้น แต่หวังให้ธุรกิจพรีเมียร์ลีกกลายเป็นธุรกิจหลักและเป็นธุรกิจ “New S-Curve” ของ MONO และกลุ่ม JAS หลังจากที่บริษัทได้ขาย 3BB ออกไปแล้ว” ดร.โสรัชย์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับการคาดการณ์จำนวนสมาชิกหากสามารถทำยอดสมาชิกได้ถึง 3 ล้านราย จะเป็นระดับที่สร้างกำไรทันที ขณะที่ระดับ 2 ล้านรายถือว่าอยู่ได้แบบยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเริ่มเห็นผลประกอบการเชิงบวกตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไป

ด้านการลงทุนธุรกิจธุรกิจอื่น ๆ นอกจากธุรกิจพรีเมียร์ลีกแล้วที่กำลังพัฒนาและขยายตัว ได้แก่ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ทำธุรกิจ AI ซึ่งเริ่มขายและพัฒนาแล้ว แต่ต้องใช้เวลา ส่วนธุรกิจบิตคอยน์ยังคงมีการขุด Bitcoin โดยมีเครื่องขุดประมาณ 4,000 เครื่องที่ราชบุรี

ด้านบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JasTel) เป็นธุรกิจ High Speed Connectivity ที่จะขยายในระดับลูกค้าองค์กร และมีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กำลังดูจังหวะตลาดอยู่

“การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่โดยมีมูลค่าสูงเกือบ 20,000 ล้านบาทดังนั้น หากถามราคาแพ็คเกจ 199 และ “299”บาท บวกกับการให้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, การแข่งขันฟุตบอลถ้วย World Cup, ฟุตบอลไทยลีกทั้งหมด (T1, T2, T3) รวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์ มองว่าบริษัทจะถึงจุดคุ้มจุดคุ้มทุนมองว่า 2 ล้านสมาชิกเราอยู่ได้สบายและยั่งยืน หากได้สมาชิกมากกว่า 2 ล้านคนขึ้นไปจะถือเป็นกำไร โดยคาดว่าระดับ 2 ล้านสมาชิกคาดว่าจะเห็นก่อนการเปิดฤดูกาลเดือนส.ค.”

ด้านนายนวมินทร์ ประสพเนตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO คาดว่าแพลตฟอร์ม Monomax จะสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยหากฐานสมาชิกอยู่ที่ 2 ล้านรายจะสร้างรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี และหากแตะ 3 ล้านรายรายได้จะยิ่งเพิ่มขึ้น  ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า Monomax จะมีสัดส่วนรายได้สูงกว่าโฆษณาทีวีจากเดิมที่โฆษณาทีวีคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด

“สำหรับสัดส่วน JAS จ่ายค่าบริการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ให้กับ MONO ในลักษณะของ Account Fee คือ 50 บาทต่อ Account หากมี 2 ล้าน Account จะได้รับ 100 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 1,200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า Monomax จะมีสัดส่วนรายได้สูงกว่าโฆษณาทีวีจากเดิมที่โฆษณาทีวีคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด โดยโฆษณาปีก่อนรายได้จบที่ระดับ 900 ล้านบาท ปีนี้คาดแตะ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะหนุนให้ผลงานปีนี้สามารถ “พลิกมีกำไร” ได้สำเร็จ” นายนวมินทร์ กล่าววเพิ่มเติม