
“สุเชษฐ์” แนะกลยุทธ์ “ถอยรับ-สะสมหุ้นพื้นฐานดี” รอจังหวะฟื้นปลายปี
“สุเชษฐ์ สุขแท้” บล.เอเอสแอล ประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,300 จุด ยังแข็งแรง มองปลายปีแนวโน้มยังบวก แนะกลยุทธ์ “ถอยรับ” และเลือกสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเก็บไว้ในพอร์ต
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) ว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 จุด ซึ่งถือว่าแข็งแรง ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,330 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ เนื่องจากแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันและกองทุนภายในประเทศยังไม่ต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวระหว่างวัน
สำหรับหุ้นเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE โดยให้แนวรับ 11 บาท แนวต้าน 12.20 บาท, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แนวรับ 125–128 บาท แนวต้าน 134–135 บาท, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แนวรับ 40 บาท แนวต้าน 44 บาท และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN แนวรับ 52 บาท แนวต้าน 55.50 บาท มองว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังมีทิศทางขาขึ้นในระยะกลาง และควรใช้กลยุทธ์ “ถอยรับ” สะสมเพื่อรอโอกาสฟื้นตัวช่วงปลายปี
ทั้งนี้ จากข้อมูลการซื้อขายสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิประมาณ 20,000 ล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิประมาณ 13,600 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิประมาณ 99,000 ล้านบาท โดยมีเพียงนักลงทุนรายย่อยที่ยังคงซื้อสุทธิอยู่ สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในตลาดของกลุ่มโบรกเกอร์ซึ่งตามปกติมักจะไม่ขายมากในช่วงเวลานี้
โดยปัจจัยกดดันหลักมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ และข่าวด้านการเงิน เช่น กรณีการปราบปรามเม็ดเงินเทาและสแกมเมอร์ที่อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน ขณะที่ต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรป สหรัฐฯ และเอเชียกลับมีทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยบวกในระยะกลาง
นายสุเชษฐ์ มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้ยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 1,300–1,400 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านระดับ 1,450 จุดได้ โดยคาดว่าปี 2569 ตลาดจะเริ่มเข้าสู่ช่วง “ฟื้นตัวเชิงโครงสร้าง” หากสถานการณ์การเมืองชัดเจนและรัฐบาลใหม่สามารถเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามแผน
“ปีนี้ตลาดผันผวนจากแรงขายของกองทุนและโบรกเกอร์ แต่หากมองไปข้างหน้าอีก 4 เดือนหลังการเลือกตั้ง บรรยากาศจะดีขึ้น เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะเริ่มกลับมา นักลงทุนควรคัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีทยอยสะสมไว้ในพอร์ต เพื่อรอโอกาสการฟื้นตัวในรอบถัดไป” นายสุเชษฐ์ กล่าว
				