PR9 เด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล แม้เผชิญความท้าทายในครึ่งปีหลัง

เส้นทางนักลงทุน

หุ้นของบริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ถูกเลือกให้เป็นหุ้นโดดเด่นที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของผู้ป่วยจากตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศ CLMV

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ ผู้บริหาร PR9 ยอมรับว่ามีความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากรายได้ลูกค้ากัมพูชาและจีนมีแนวโน้มชะลอตัว เมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ที่รายได้กลุ่มต่างชาติมีฐานสูงขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจไทยยังทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ และต้องทำโปรโมชันส่วนลดต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการใช้บริการของกลุ่มชาวไทย

ขณะที่แผนงานทั้งปี 2568 PR9 มุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าต่างชาติ และการนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงบริการ โดยเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างชาติกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลางและ CLMV ที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์เชิงลึก การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการรักษา และปรับปรุงบริการให้ทันสมัย

ความโดดเด่นของ PR9 สะท้อนผ่านผลการดำเนินงาน โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สามารถโชว์กำไรสุทธิ 200.46 ล้านบาท เติบโตถึง 26% ขณะที่มีรายได้รวม 1,251.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ดังกล่าว

เมื่อมองไปในไตรมาส 2 ซึ่งจะมีการประกาศผลงานออกมาเร็ว ๆ นี้ ก็น่าจะยังใช้ได้ แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ตลอดจนภาวะการแข่งขันรุนแรง

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีนี้ มีแนวโน้มต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 212 ล้านบาท ลดลงมาที่ 194 ล้านบาท เพราะต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าว แต่ตัวเลขกำไรดังกล่าวยังเติบโตแข็งแกร่งถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามแรงหนุนการเติบโตของผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกาตาร์ ส่วนรายได้จากผู้ป่วยคนไทยก็ยังเติบโตได้แม้จะเล็กน้อยก็ตาม

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าอัตราการเติบโต (CAGR) ของกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่ปี 2567-2570 จะอยู่ที่ 14% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ขณะที่มูลค่าหุ้นยังน่าสนใจระดับ P/E ในปีนี้ ที่ 21 เท่า สูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อยแต่การเติบโตเหนือกว่า

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินว่า PR9 จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2 เติบโตสูง เพราะรายได้รักษาพยาบาลผู้ป่วยต่างชาติมีแนวโน้มดี ถือว่าสอดคล้องมุมมองตลาด นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น หรือ Gross margin น่าจะทำได้ใกล้เคียงไตรมาส 1 ที่ 36.7% เนื่องจากการเพิ่มศูนย์โรคเฉพาะทาง เช่นหลอดเลือดสมอง, โรคพาร์กินสัน

แต่การปรับปรุงแผนกผู้ป่วยใน (Ward) ของโรงพยาบาล เพื่อรองรับการใช้บริการลูกค้าต่างชาติ รวมทั้ง การทำโปรโมชันส่วนลดกลุ่มลูกค้าคนไทย และค่าใช้จ่ายในการบริหารและขาย (SG&A) น่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้

เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) ที่มองกำไรในไตรมาสดังกล่าวที่ 198 ล้านบาท เติบโต 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และปัจจุบันยังไม่มีการเพิ่มจำนวนเตียง ซึ่งน่าจะล่าช้ากว่าเป้าหมายเดิมที่จะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ไปเป็นในไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ยังประเมินกำไรสุทธิในปี 2568 ที่ 812 ล้านบาท เติบโต 14% รับผลบวกคนไข้ต่างชาติขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตของกำไรของ PR9 จะส่งต่อในปี 2569 ในระดับ 7% มาที่ 873 ล้านบาท

3 โบรกเกอร์ฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า PR9 ต้อง “ซื้อ” ให้ราคาระหว่าง 29-32.50 บาท มองยังมีการเติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสัดส่วนคนไข้ต่างชาติที่จะหนุนให้การเติบโตทำได้โดดเด่นกว่ากลุ่ม ฯ