แก๊งสี่โมง (เย็น) ออกฤทธ์!

วานนี้หุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)หรือ DELTA ถูกไล่ราคาในช่วงเวลา 16.05 น. หรือประมาณสี่โมงเย็น ราคาที่เคลื่อนไหวก่อนสี่โมงเย็นอยู่ระหว่าง 158.00-159.00 บาท


วานนี้หุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)หรือ DELTA ถูกไล่ราคาในช่วงเวลา 16.05 น. หรือประมาณสี่โมงเย็น

ราคาที่เคลื่อนไหวก่อนสี่โมงเย็นอยู่ระหว่าง 158.00-159.00 บาท

แต่ช่วงเวลา 16.05 น. มีการเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเดลต้าฯ ด้วยมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาทใช่วงเวลาไม่กี่นาที ทำให้ราคาขึ้นมาเคลื่อนไหว 162.00-162.50 บาท

ก่อนจะลงมาปิดที่ระดับ 161.50 บาท

ประเด็นที่น่าสนใจคือ วันนี้ (30 ก.ย.) มีข่าว (ลือ) ว่า กองทุนประเภท Passive Fund อาจทำการปรับ (ลด) น้ำหนักหุ้นเดลต้าฯ ลง โดยเป็นการปรับตามเกณฑ์ Cap Weight ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจำกัดน้ำหนักของหุ้นรายตัวในดัชนีไม่ให้เกิน 10%

คำถามคือว่า กองทุน Passive Fund มีการปรับลดน้ำหนักไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ?

คำตอบคือ “ใช่”

แต่มีความเป็นไปได้ว่า ช่วงที่ผ่านมาอาจมีกองทุนฯ ที่เข้าซื้อเดลต้าฯ จนอาจจะมีน้ำหนักเกินขั้นมาอีกอะไรประมาณนี้

เลยอาจจะเข้ามาไล่ราคาเพื่อมาขาย ณ ราคาปิดของวันนี้ (30 ก.ย.)

หรืออีกนัหนึ่งของการไล่ราคาหุ้นเดลต้าฯ วานนี้ ซึ่งเป็วันที่มีการปิดสถานะ SET50 Index Futuresสัญญา S50U25 ที่ซื้อขายวันสุดท้าย

สำหรับเดลต้าฯ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคป ณ ราคาปิด เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. 68(157.50 บาท) อยู่ที่ 1,964,626 ล้านบาท

ส่วนราคาปิด วานนี้ที่ 161.50 บาท หุ้นเดลต้าฯ มีมาร์เก็ตแคปขึ้นมาที่ 2.01 ล้านล้านบาท

ราคาเดลต้าฯ ที่ถูกดันขึ้นมา

ทำให้มีส่วนต่อการเพิ่มขึ้นของดัชนีวานนี้ 3.95 จุด

รองลงมาคือ บมจ.ปตท. หรือ PTT ประมาณ 12.13 จุด และ ADVANC ประมาณ 0.70 จุด

จริงแล้วช่วงสี่โมงเย็นวานนี้ นอกจากจะไล่ซื้อหุ้นเดลต้าฯ แล้ว

ยังพบว่า มีการเข้ามาไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่อื่น ๆ ด้วย เช่น PTT ที่ถูกดันขึ้นมาปิดบวก 1.50%

แต่จะเกี่ยวข้องกับที่วันที่ 1 ต.ค.นี้ขึ้นเครื่องหมาย XDเพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.90 บาท หรือไม่นั้น… คือ อาจจะเกี่ยวเนื่องกันก็ได้ หรืออาจไม่เกี่ยวกันก็ได้

เช่นเดียวกับหุ้น ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ที่ถูกไล่ราคาขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

หรือจากบริเวณราคา 167.00 บาท ถูกดันขึ้นมาปิด 168.00 บาท

และยังมีหุ้น ADVANC GULF AOT ละแบงก์กรุงไทย (KTB) ที่ได้ถูกเข้ามาไล่ซื้อเช่นกัน

ในช่วงเวลา 16.00 น หรือปรมาณ 4 โมงเย็น วอลุ่มเทรดที่อยู่ระหว่าง 2.72.8 หมื่นล้านบาทนั้น ทำให้ในช่วงเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง (รวมช่วงเวลา ATC) วอลุ่มเทรดกระโดดขึ้นมาปิดอยู่ที่ 3.78 หมื่นล้านบาท หรือทะลักขึ้นมากว่า 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

ทันทีที่ตลาดหุ้นไทยปิด

เชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะพอคาดเดากันเลยว่า วันนี้ (29 ก.ย.) ไม่ต่างชาติหรือกองทุน จะต้องซื้อสุทธิแน่

หรืออาจจะจับมือซื้อพร้อม ๆ กัน

แต่ที่ไหนได้ กลับจูงมือขายด้วยกันทั้งนักลงทุนต่างชาติและกองทุน

โดยนักลงทุนต่างชาติขายออกมาไม่มากนัก ประมาณ -342 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิแบบจัดหนักกว่า -1,585 ล้านบาท

แต่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หรือพอร์ตโบรกเกอร์ กลับซื้อสุทธิ 2,797 ล้านบาท

นักลงทุนรายย่อยขาย 869 ล้านบาท

พิจาณาจากตัวเลขของการซื้อขายรายกลุ่มแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ (มากที่สุด) ที่วานนี้ช่วงสี่โมงเย็น กลุ่มที่ไล่ซื้อหุ้นน่าจะมาจากโบรกเกอร์

คงต้องมาติดตามดูกันว่า เหตุผลของโบรกเกอร์เข้ามาไล่ซื้อหุ้นบิ๊กแคปช่วงท้ายตลาดนั้น

มีนัยฯ อย่างไรกัน

Back to top button