
CHAYO เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น 16 ต.ค.นี้! ขยายวันไถ่ถอน-เพิ่มดอกเบี้ย
CHAYO เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น มูลค่า 3.93 พันล้านบาท เสนอขยายไถ่ถอน 2 ปี เพิ่มดอกเบี้ย 0.25% และใช้เงินจากขาย NPL/NPA ชำระหนี้บางส่วน ในวันที่ 16 ต.ค.68
บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้ประกาศเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เพื่อขออนุมัติการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสำคัญของหุ้นกู้ซึ่งมีมูลค่าคงค้างรวม 3,932.90 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากบริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งในระดับโลกและในประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การขายหลักประกันไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ประกอบกับความผันผวนของตลาดหุ้นกู้ทำให้ไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมได้
ข้อเสนอหลักต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ประกอบด้วย: 1) การขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ทุกรุ่นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับ 2) การแบ่งชำระคืนเงินต้นบางส่วนอย่างน้อย 10% ภายในวันครบกำหนดเดิม และ 3) การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ต่อปี ในช่วงเวลาที่ขยายออกไป เพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้เสนอแผนการชำระคืนหนี้ที่ชัดเจน โดยจะนำเงินสุทธิอย่างน้อย 70% จากการขายสินทรัพย์ NPL และ NPA จำนวน 17 รายการ (มูลค่าประเมินรวมประมาณ 2,509 ล้านบาท) และเงินอย่างน้อย 50% จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานรายเดือน มาจัดสรรเพื่อการชำระหนี้ พร้อมทั้งขอผ่อนผันไม่ให้การดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้นี้ถือเป็นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้
- สถานการณ์และเหตุผลความจำเป็น
บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการขอปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหุ้นกู้ โดยมีปัจจัยกดดันหลายประการ ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว: ทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาคธุรกิจโดยรวม
ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกิน (Over Supply) อย่างรุนแรง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน: สถาบันการเงินมีนโยบายไม่ปล่อยสินเชื่อหรือปล่อยสินเชื่อในปริมาณที่น้อยมาก ทำให้การขายทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ความผันผวนในตลาดหุ้นกู้: ตลาดตราสารหนี้ในประเทศมีความผันผวนสูง มีการผิดนัดชำระหนี้ของหลายบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบต่อสภาพคล่อง: จากปัจจัยข้างต้น ทำให้บริษัทไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อนำเงินมาชำระคืนหุ้นกู้เดิม (Rollover) ได้ในภาวะปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ตามเงื่อนไขเดิม
“บริษัทมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ตามเงื่อนไขของข้อกำหนดสิทธิเดิม”
- รายละเอียดการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บริษัทจึงมีความประสงค์ที่จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อพิจารณาอนุมัติข้อเสนอต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันและเวลาประชุม: วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 14:00 น. (ครั้งที่ 2/2568)
รูปแบบการประชุม: การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) ถ่ายทอดสดจากสำนักงานใหญ่ของบริษัท
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date): วันที่ 2 ตุลาคม 2568
หุ้นกู้ที่เกี่ยวข้อง: จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ CHAYO25NA, CHAYO263A, CHAYO26OA, CHAYO273A, CHAYO279Aมูลค่าหุ้นกู้คงค้างรวม: 3,932.90 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2568)
การลงมติ: การประชุมจะจัดขึ้นพร้อมกันทุกรุ่น แต่องค์ประชุมและการนับคะแนนเสียงจะถูกแยกออกจากกันสำหรับหุ้นกู้แต่ละรุ่น
- สรุปวาระการประชุมและข้อเสนอหลัก
บริษัทได้เสนอวาระการประชุมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติ 5 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
วาระที่ 1: ขอขยายระยะเวลาไถ่ถอนและแบ่งชำระคืนเงินต้น
ขยายระยะเวลา: ขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่น ออกไปอีก 2 ปีนับจากวันครบกำหนดเดิม
แบ่งชำระคืนเงินต้น: บริษัทจะชำระคืนเงินต้นบางส่วนจำนวนไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิมของแต่ละรุ่น และจะชำระคืนเงินต้นส่วนที่เหลือทั้งหมดในวันครบกำหนดไถ่ถอนใหม่ที่ขยายออกไป
วาระที่ 2: ขอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้
เพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้จากการขยายระยะเวลาไถ่ถอน บริษัทเสนอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นขึ้นอีก 0.25% ต่อปี ตลอดช่วงระยะเวลาที่ขยายออกไป
วาระที่ 3: แผนการชำระคืนหนี้จากแหล่งเงินทุน (กรณีวาระที่ 1 ได้รับการอนุมัติ) บริษัทได้กำหนดแนวทางการจัดหาเงินเพื่อชำระคืนหนี้ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
(ก) การจำหน่ายสินทรัพย์: นำเงินสุทธิอย่างน้อย 70% ที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) รวม 17 รายการ (ราคาประเมินรวมประมาณ 2,509 ล้านบาท) มาชำระคืนหนี้หุ้นกู้ตามลำดับวันครบกำหนดเดิม
(ข) กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: นำเงินสุทธิอย่างน้อย 50% ที่ได้รับจากการดำเนินงานในแต่ละเดือน ไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากเพื่อสะสมชำระคืนหนี้หุ้นกู้ (Debentures Fund) เพื่อนำไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ตามลำดับวันครบกำหนดเดิม
ลำดับการชำระหนี้: เงินจากทั้งสองแหล่งจะถูกนำไปชำระคืนเงินต้นบางส่วน 10% ให้ครบทุกรุ่นก่อน หลังจากนั้น เงินส่วนที่เหลือจะถูกนำไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ทุกรุ่นโดยเฉลี่ยตามสัดส่วนของมูลค่าหนี้คงค้างของแต่ละรุ่นต่อไป
วาระที่ 4: ขอสิทธิในการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด
ขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิเพื่อให้ผู้ออกหุ้นกู้สามารถใช้สิทธิชำระหนี้หุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้ ทั้งจำนวนหรือบางส่วน โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมในการใช้สิทธิ (ยกเว้นรุ่น CHAYO279A ที่ได้รับการอนุมัติเรื่องนี้ไปแล้ว)
วาระที่ 5: ขอผ่อนผันเหตุแห่งการผิดนัด
ขอผ่อนผันให้การเสนอปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระหนี้ในครั้งนี้ และ/หรือ การเข้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้อื่น (ถ้ามี) ภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันประชุม ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อ 11.1 (ญ) ของข้อกำหนดสิทธิ