
3 หุ้นพลังงานเด้ง! รับโอเปกพลัส ประกาศเพิ่มกำลังผลิตเพียง 1.37 แสนบาร์เรลต่อวัน
3 หุ้นพลังงานเด้ง! PTTEP-PTT-TOP รับโอเปกพลัส ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 1.37 แสนบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าที่ตลาดคาด โบรกฯ มองปันผล PTTEP ยีลด์สูงกว่า 7% หรือราว 8.50 บาท คาด Outperform ในไตรมาส 4/68 จากแนวโน้มราคาน้ำมันฟื้นตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ต.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวขึ้น ณ เวลา 14:56 น. นำโดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 115 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 0.88% สูงสุดที่ระดับ 115.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 114.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 405.05 ล้านบาท
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 32.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.78% สูงสุดที่ระดับ 32.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158.72 ล้านบาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 35.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.43% สูงสุดที่ระดับ 35.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 35.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99.94 ล้านบาท
สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำขานรับผลเชิงบวก ราคาน้ำมันมีแนวโน้มรีบาวด์ในสัปดาห์นี้หลังจากร่วงลงกว่า 7–8% จากก่อนหน้าการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) วันที่ 5 ตุลาคม 2568 โดยผลการประชุมออกมาว่า กลุ่มโอเปกพลัส จะเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 137,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ย.2568 ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ในช่วงเช้าวานนี้ (6 ต.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
โดยโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือน พ.ย. หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันอาทิตย์ (5 ต.ค.) โดยระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีเสถียรภาพและปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันที่ยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นจากสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำนั้น สมาชิกทั้ง 8 ประเทศ ของโอเปกพลัสจึงได้ตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 137,000 บาร์เรล/วันในเดือน พ.ย. และจัดการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 2 พ.ย. เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตในวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตที่จะปรับเพิ่มในเดือน พ.ย. อยู่ระดับเดียวกับเดือน ต.ค.และน้อยกว่าช่วงหลายเดือนก่อนหน้านั้น โดยโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย., เพิ่มกำลังการผลิต 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. และปรับเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วัน ทั้งในเดือนพ.ค.68, เดือนมิ.ย.68 และเดือนก.ค.68
นอกจากนี้ การเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันในเดือน พ.ย.น้อยกว่าที่มีกระแสคาดการณ์ในตลาดก่อนหน้านี้ว่า โอเปกพลัสอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันมากถึง 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองกรณีดังกล่าว เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ อาทิ PTT, PTTEP, TOP
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP จากระดับมูลค่าที่น่าสนใจ พร้อมคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend yield) กว่า 7% หรือราว 8.5 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสรักษาการจ่ายปันผลใกล้ระดับปี 2567 ที่ 9.5 บาทต่อหุ้น จากฐานะการเงินแข็งแกร่งและกระแสเงินสดอิสระที่มั่นคง โดยคาดว่า PTTEP มีแนวโน้ม “Outperform” ในไตรมาส 4/2568 เนื่องจากราคาน้ำมันมักปรับขึ้นราว 14–20% ภายใน 3–12 เดือนหลังธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มลดดอกเบี้ย
นอกจากนี้ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA), กลุ่มโอเปก (OPEC) และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2568-2569 ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลุ่ม Middle Distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวที่จะมาถึงจะหนุนค่าการกลั่น (GRM) ให้เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน โดย PTTEP ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายจากน้ำมันดิบราว 30% จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากแนวโน้มดังกล่าว