ORI กวาดยอดขาย 9 เดือน 19,000 ล้าน เดินหน้าเปิด 5 โครงการใหม่ไตรมาส 4

ORI โชว์ยอดขาย 9 เดือนแรกปี 2568 แตะ 19,086 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกรวม 40,983 ล้านบาท เตรียมเปิดเพิ่ม 5 โครงการใหม่ปลายปี ชูจุดขายตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมเปิดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ “Origin Plug & Play E22 Station” ร่วมอิเกีย


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทสามารถทำยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมรวม 19,086 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 81% และจากโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 19% โดยในจำนวนนี้ ยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) มีสัดส่วนราว 59% และจากโครงการเปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างก่อสร้าง (New Launch และ Ongoing) รวมกันประมาณ 41% ส่งผลให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 รวมอยู่ที่ 40,983 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,150 ล้านบาท ขณะเดียวกันในไตรมาส 4/2568 มีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า Real Demand ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง กลุ่มนักลงทุนรายย่อย กลุ่มลูกค้า Big lot และ Corporate ในรูปแบบ B2B รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สอง (Second Home) รวมถึงกลุ่มคนรักสัตว์ สอดรับกระแส “Pet Humanization” ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จใหม่และเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2568 รวม 6 โครงการ ได้แก่ ออริจิ้น เพลส ขอนแก่น กัลปพฤกษ์, ดิ ออริจิ้น บางแค, ดิ ออริจิ้น พหล57, ดิ ออริจิ้น กะทู้–ป่าตอง, ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท แพรกษา และออริจิ้น เพลย์ บางแสน ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้รวมกว่า 72% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด

โดยในส่วนของกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทได้ร่วมมือกับอิเกีย ประเทศไทย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก เพื่อร่วมออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการ “Origin Plug & Play E22 Station” คอนโดมิเนียมใหม่ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว สถานีสายลวด เพียง 0 เมตร โดยมีแผนขยายรูปแบบห้องแต่งพร้อมอยู่ (Ready to move) ไปยังหลายทำเลศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อรองรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยคุณภาพในระยะยาว

Back to top button