THAI ร่วงต่อ 2% เซ่นข่าวลือ “ปรับบอร์ดใหม่” โบรกมองกระทบความเป็นอิสระ

THAI ร่วงต่อ 2% จับตาแรงกระเพื่อมปรับบอร์ดใหม่ นักวิเคราะห์ชี้เป็นปัจจัยลบ กังวลลดความเป็นอิสระบริหาร กระทบทิศทางฟื้นฟูกิจการ โบรกแนะคงเป้าหมาย 7.65 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (10 ต.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ณ เวลา 11:19 น. อยู่ที่ระดับ 11.30 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 1.74% สูงสุดที่ระดับ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.80 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 889.23 ล้านบาท

 

โดยเมื่อวานนี้ 9 ต.ค. นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่าราคาหุ้น THAI ร่วงลงมาหนักในช่วงบ่าย เพราะนักลงทุนกังวลหลังมีข่าวสะพัดว่าบริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ซึ่งตามข่าวการบินไทยได้มีหนังสือแจ้งต่อผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น THAI เกิน 5% สามารถเสนอชื่อผู้ที่เห็นสมควรเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทได้ภายในวันที่ 19 ต.ค.68 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาและจะนำเข้าที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 23 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ มีการอ้างถึงแหล่งข่าวว่าจะมีการประชุมประจำปี (AGM) ให้เร็วขึ้น โดยจะประชุมในเดือน ธ.ค.68

นายปริญทร์ กล่าวต่อว่า มีรายงานข่าวว่าขณะนี้กระทรวงการคลังส่งชื่อมาแล้ว 10 คน เป็นความพยายามที่จะเข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่หุ้น THAI จะกลับมา Resume Trade เมื่อนักลงทุนทราบข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ก็กังวลว่าบอร์ดใหม่จะเก่งเท่าบอร์ดเก่าหรือไม่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงด้วย ที่ผ่านมามองว่า การบินไทย พ้นเหวมาได้เพราะฝีมือบอร์ดเก่า ซึ่งมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ อดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูอยู่ด้วย และไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง

ขณะเดียวกัน บล.กรุงศรี ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึงประเด็นราคาหุ้น THAI ว่าบ่ายวานนี้ (9 ต.ค. 68) ราคาหุ้น THAI ปรับตัวลงแรงมาปิดที่ 11.50 บาท ลดลง 1.40 บาท หรือ 11% จากวันก่อนหน้า โดยระหว่างวันทำจุดต่ำสุดที่ 10.80 บาท ลดลงถึง -17% หลังมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการเพิ่มสัดส่วนกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ โดยสำนักข่าวในประเทศรายงานว่า THAI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ และส่งหนังสือถึงผู้ถือหุ้น เปิดให้ผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นเกิน 5% สามารถเสนอชื่อกรรมการใหม่ได้ภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ (ถือหุ้น 38.90%) ได้เสนอรายชื่อกรรมการใหม่จำนวน 10 คน ขณะที่บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนคณะกรรมการอีก 4 คน จากเดิม 11 คน เป็น 15 คน ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี มองประเด็นดังกล่าวเป็น Negative ต่อการดำเนินงานของ THAI หากสัดส่วนกรรมการตัวแทนภาครัฐเพิ่มขึ้น (จากเดิมมีอยู่ 6 คน จาก 11 คน) เนื่องจากอาจทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านความเป็นอิสระในการบริหารลดลง และกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน คล้ายกับช่วงก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 คาดว่าจะชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจการบิน โดยข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่ายอดนักท่องเที่ยวยุโรปและออสเตรเลีย (ซึ่งคิดเป็น 35% และ 10% ของผู้โดยสาร THAI ตามลำดับ) ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน 8% และลดลง 1% ตามลำดับ ซึ่งชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 14% และ 9% ตามลำดับ ขณะเดียวกัน THAI ยังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่

1.) ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติราว 1,000 ล้านบาท 2.) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ Reduce ราคาเป้าหมายที่ 7.65 บาท โดยมองว่าราคาหุ้น THAI ยังมีความเสี่ยงจากต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ยังคาดกำไรปกติปี 2568 อยู่ที่ 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน และปี 2569 คาดอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท ลดลง 16% จากปีก่อน

นอกจากนี้ ราคาหุ้น THAI ยังมีความเสี่ยงถูกกดดันจากการสิ้นสุดระยะเวลาการห้ามซื้อขาย (Silent Period) ราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ของหุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนและการเพิ่มทุนแบบ PP (ต้นทุนเฉลี่ย 2.5452–4.48 บาทต่อหุ้น) จำนวนกว่า 6.6 พันล้านหุ้น และอีกราว 2 หมื่นล้านหุ้นจะครบกำหนดราวต้นเดือนสิงหาคม 2570

Back to top button