
“ชัยยศ” แนะเก็บ CENTEL-CPALL รับอานิสงส์นโยบายรัฐหนุน “ท่องเที่ยว-บริโภค”
นายชัยยศ จิวางกูร มองตลาดจับตาการประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้ คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรองช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริการและค้าปลีก แนะเก็บ 2 หุ้นเด่น CENTEL และ CPALL รับแรงหนุนนโยบายภาครัฐรอจังหวะฟื้นตัวครึ่งหลังปี 68
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (15 ต.ค.68) ว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ประมาณ 20 จุด ถือว่าอยู่ในระดับเฉลี่ยเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับลงราว 1- 2% หลังตลาดไทยปิดทำการในวันจันทร์ ขณะที่ตลาดอื่นเปิดซื้อขายและตอบรับแรงกดดันจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน
สำหรับแนวโน้มวันนี้ คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในลักษณะ “แกว่งตัวขึ้น” หรือรีบาวด์ตามตลาดเพื่อนบ้าน หลังแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้กว่า 2,000 ล้านบาท น่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจพิเศษ) ซึ่งอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม
นายชัยยศ กล่าวว่า หุ้นที่น่าสนใจในวันนี้คือกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐ โดยเฉพาะกลุ่ม ท่องเที่ยวและบริโภค ซึ่งคาดว่าจะได้แรงหนุนจากมาตรการส่งเสริม “ท่องเที่ยวเมืองรอง” หากได้รับการอนุมัติจาก ครม. จะช่วยผลักดันรายได้ในภาคท่องเที่ยวและโรงแรมให้ฟื้นตัวเด่น แนะนำหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาเป้าหมาย 80 บาท มองเป็นโอกาสสะสมรับการฟื้นตัวของการบริโภค
ในส่วนกลุ่มสายการบิน นายชัยยศมองว่าอาจได้ประโยชน์ไม่มาก เนื่องจากเส้นทางเมืองรองมีสนามบินจำกัด ทำให้การเดินทางด้วยสายการบินนั้นน้อยกว่าเมืองหลัก ขณะที่ราคาน้ำมันที่เริ่มอ่อนตัวลงถือเป็นปัจจัยบวกเล็กน้อยต่อภาพรวมอุตสาหกรรมการบิน
สำหรับกลุ่ม Global Play โดยเฉพาะน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ มองว่าอยู่ในช่วง “รอดูจังหวะ” (Wait and See) เนื่องจากเศรษฐกิจหลักทั้งจีนและสหรัฐฯ ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่งผลให้การใช้น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ยังไม่ขยายตัวเด่น การลงทุนจึงควรเน้นเชิงเลือก Selective ไปตามธีมและปัจจัยหนุนเฉพาะตัวมากกว่าการเก็งกำไรเชิงกว้าง
ด้านกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก ดอกเบี้ยขาลง ยังเป็นธีมหลักของการลงทุน โดย KSS คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ เช่น บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC และ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนทางการเงินสูง เนื่องจากส่วนใหญ่กู้ยืมทั้งสกุลดอลลาร์และเงินบาทในอัตราดอกเบี้ยลอยตัว การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจได้รับผลบวกทางอ้อม ต้องติดตามกำลังซื้อของประชาชนควบคู่ไปด้วย