
คัด 10 หุ้นเด่น! รับเทศกาล “กินเจ” ลุ้นเงินสะพัด 4.59 หมื่นล้าน นิวไฮรอบ 5 ปี
เทศกาลกินเจปี 68 คาดเงินสะพัด 4.59 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 5 ปี หนุน 10 หุ้นค้าปลีกคึกคัก โบรกชู CPALL-TKN โดดเด่นสุด ส่วนปลายเดือน ต.ค. ยังได้แรงหนุนเพิ่มจากมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นยอดขายปลายปีต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงาน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2568 จะมีเงินสะพัดรวม 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เงินสะพัด 45,003 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงที่สุดในรอบ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากประชาชาส่วนใหญ่ยังระมัดระวังการใช้จ่ายเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจ โดยรวมยังไม่ดี ขณะที่ ผลสำรวจถึงพฤติกรรมและการใช้จ่ายประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจจากตัวอย่างทั่วประเทศ 1,272 คน ที่ทำการสำรวจวันที่ 6-12 ตุลาคม 2568 เผยคนส่วนใหญ่ราว 66% ไม่กินเจ และมีคนกินเจเพียง 34% โดยให้เหตุผลที่กินเจ เนื่องจากตั้งใจทำบุญ รองลงมา กินเฉพาะเทศกาล มีกินฟรีที่โรงเจ และมีคุณค่าทางอาหาร
นอกจากนี้ ผู้ตอบส่วนใหญ่ 73.9% มองว่ามีราคาแพงขึ้นถัดมา 23.5% มองว่าเท่าเดิมและจำนวนอีก 2.6% มองว่าลดลง โดยคนที่กินเจ 7.1% ระบุมีการวางแผนเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีมูลค่าเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย 5,066 บาท/คน ส่วนมูลค่าทำบุญเฉลี่ยอยู่ที่ 1,746 บาท/คน
เมื่อถามถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายกินเจปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเชิงปริมาณการซื้อส่วนใหญ่กว่า 52.8% ตอบว่าซื้อในปริมาณที่เท่าเดิม ส่วนมูลค่าในการซื้อส่วนใหญ่ 47.0% ซื้อในมูลค่าเท่ากับปีก่อนเช่นกัน และมองว่าเทศกาลกินเจปีนี้คึกคักใกล้เคียงกับปปีก่อน
ขณะเดียวกัน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบหุ้นที่คาดว่าได้รับอานิสงส์จากเทศกาลกินเจมานำเสนอมุมมองของการลงทุนในช่วงนี้ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจอาหารเกี่ยวกับการปรุงอาหาร กลุ่มบริการ ค้าปลีก ประกอบด้วย บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง ตราองุ่น และวัตถุดิบอาหารสัตว์, บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช ไขมันพืชผสม และเนยเทียม ผักและผลไม้แช่แข็งหรือบรรจุกระป๋อง น้ำผลไม้
บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) หรือ KASET ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตร และเกษตรแปรรูป เช่น ข้าว วุ้นเส้น โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป และวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออก, บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี ได้แก่ แป้งบะหมี่สด แป้งขนมปัง แป้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งบิสกิต แป้งอเนกประสงค์ แป้งอาหารสัตว์ เป็นต้น
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ, บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยว เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
รวมไปถึง บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท เช่น อังเคิลบาร์นส์, เบสท์ โอเดอร์ และ super-find เป็นต้น, บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ซึ่งเป็นผู้ผลิตจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ และกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค
ส่วนความเห็นจากบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า ม.หอการค้าไทยเผยเทศกาลกินเจ ปี 68 เงินสะพัด 45,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% ถือเป็นมูลค่าสูงที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้มูลค่าดังกล่าวยังไม่มีผลบวกจากโครงการคนละครึ่งพลัส
โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองเป็น “จิตวิทยาบวก” กลุ่มค้าปลีกโดยรวมที่ได้เม็ดเงินคึกคักขึ้น ซึ่งหุ้นที่รับผลบวกมากสุด คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ในฐานะที่มีสาขาตอบสนองกระแสดังกล่าวได้ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามมองเป็น จิตวิทยาลบ ระยะสั้นกลุ่มจำหน่ายเนื้อสัตว์ร้านอาหาร
ด้านความเห็นจาก นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.กรุงศรี เกี่ยวกับหุ้นที่อาจได้รับประโยชน์จากเทศกาลกินเจ ระบุ เทศกาลกินเจจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า 21 ตุลาคม 2568– 29 ตุลาคม 2568 หุ้นที่น่าจะได้รับประโยชน์หลักๆ ได้แก่ CPALL เนื่องจากมีสาขา 7-Eleven ครอบคลุมทั่วประเทศและจำหน่ายสินค้าอาหารเจหลายประเภททำให้มีโอกาสได้รับผลบวกจากเทศกาลกินเจตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น
นอกจากนี้ หุ้นที่อาจได้รับผลดีในเชิงบวกเพิ่มเติม ได้แก่ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ซึ่งสินค้าของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่กินเจได้
สุดท้ายในช่วงปลายปีนี้ ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นหลายตัวก่อนหน้าได้ตอบรับข่าวเป็นไปในทิศทางบวกแล้ว โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่ง” ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2568 มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับกลุ่มค้าปลีก หุ้นที่น่าจะได้รับประโยชน์โดยตรง ได้แก่ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้ค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น แม็คโคร (Makro) และมอง CPALL ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการถือหุ้นใน CPAXT อีกทั้ง บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ผู้ค้าปลีกเช่น Big C และน่าจะช่วยให้ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัว