
CREDIT กวาดกำไร 9 เดือน 2.8 พันล้าน รับสินเชื่อขยายตัว-รายได้ค่าฟีเพิ่ม
CREDIT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 1,013.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากไตรมาสก่อนหน้า รับอานิสงส์รายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากสินทรัพย์ทางการเงินเพิ่มขึ้น
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,013.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จาก 925.2 ล้านบาทในไตรมาสก่อน ปัจจัยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 114.0 ล้านบาท หรือ 2.6% สอดคล้องกับการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ 3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568
นอกจากนี้ ธนาคารมีกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินที่วัดมูลค่าผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) จำนวน 84.8 ล้านบาท ขณะเดียวกันรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 49.3 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ค้างรับจากเงินชดเชยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ภายใต้มาตรการ “คุณสู้เราช่วย” เพิ่มขึ้น 58.0 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น 63.7 ล้านบาท หรือ 7.3% สอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อในช่วงไตรมาสดังกล่าว ส่งผลให้ NPL Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 156.6% เพิ่มขึ้นจาก 148.6% ณ สิ้นปี 2567 เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต
สำหรับอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อรวม (Gross NPLs Ratio) ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 4.2% จาก 4.4% ณ สิ้นปี 2567 โดยในไตรมาส 3 ปี 2568 เงินให้สินเชื่อรวมยังคงขยายตัว 3.5% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 8.9% จากสิ้นปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน และสินเชื่อบุคคล
โดยธนาคารมีอัตราส่วนผลตอบแทนดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) อยู่ที่ 7.6% คงที่จากไตรมาสก่อน และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ในระดับสูงที่ 15.73% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม