
SCGD พุ่ง 5% รับกำไร Q3 โตแรง 61% แตะ 304 ล้านบาท ดีกว่าโบรกคาด เคาะเป้า 6 บ.
SCGD บวก 5% หลังรายงานกำไรไตรมาส 3/68 โตแรง 61% แตะ 304 ล้านบาท ดีกว่าโบรกคาดการณ์ไว้ หนุนจากกลยุทธ์ลดต้นทุน-ดอกเบี้ยจ่ายลด 23% แม้ยอดขายกระเบื้องในไทยหด 12% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ อินโดฯ, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม ยังขยายตัวดี คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (28 ต.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ณ เวลา 10:26 น. อยู่ที่ระดับ 5.15 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 5.10% สูงสุดที่ระดับ 5.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.00 บาทด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.53 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง SCGD รายงานกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ คือ ค่าชดเชยเหตุการณ์น้ำท่วมในฟิลิปปินส์ 16 ล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 60 ล้านบาทในไตรมาส 2/68) กำไรปกติอยู่ที่ 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
อย่างไรก็ตาม ตลาดกระเบื้องของไทยเป็นตลาดเดียวที่หดตัว 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการซบเซาของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ตลาดอื่นๆ ขยายตัวทั้งอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 9%, ฟิลิปปินส์ 3%, และเวียดนาม 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านกำไรปกติที่แข็งแกร่งเกิดจากกลยุทธ์ลดต้นทุนเป็นหลักโดยเฉพาะ SG&A อยู่ที่ 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลของการปรับโครงสร้างธุรกิจ และดอกเบี้ยจ่ายลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารเงินทุนหมุนเวียนและดอกเบี้ยตลาดลดลง
ส่วน GPM อยู่ระดับใกล้เคียงเดิมจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามต้นทุนพลังงานลดลง กลยุทธ์ลดต้นทุนผ่านการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลและการติดตั้งโซลาร์ แต่ด้วยยอดขายลดลง ทำให้ GP ลดลงทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันกำไรปกติงวด 9 เดือนปี 68 อยู่ที่ 809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 82% ของประมาณการทั้งปี (กำไรสุทธิ 744 ล้านบาท คิดเป็น 75%) ทำให้กำไรทั้งปีที่คาดการณ์จะมี Upside จากอัตรากำไรที่ดีกว่าคาดจากกลยุทธ์ลดต้นทุนโดยฝ่ายนักวิเคราะห์ คงคาแนะนา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 ดีกว่าคาด แม้ตลาดยังหดตัวแต่อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากกลยุทธ์ลดต้นทุน ช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันปีหน้ายังมีแรงหนุนจากการเติบโตของตลาดเวียดนามและดีล M&P ใหม่

