
โซเชียลตั้งคำถาม อย. ปมผลตรวจสารปรอท “KMA Cosmetics” สวนทางผลห้องแลปไม่พบปนเปื้อน
แชร์ว่อน! โพสต์เล่าประสบการณ์ หลัง อย. แจ้งตรวจพบสารปรอทในผลิตภัณฑ์ “KMA Multi Face Stick” ภายใต้ OCC ขณะที่ผลตรวจซ้ำจากห้องปฏิบัติการ ALS Laboratory Group (Thailand) และ Bureau Veritas Shenzhen Co., Ltd. ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลไม่พบการปนเปื้อน สร้างผลกระทบต่อชื่อเสียงและยอดขายของแบรนด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สังคมออนไลน์มีการแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก “Teerada Noi Ambhanwong” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 อย่างแพร่หลาย รวมถึง เพจ “ผู้บริโภค” ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 2.6 ล้านราย
โดยโพสต์ต้นทางเป็นการเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับกรณีที่แบรนด์เครื่องสำอาง KMA Cosmetics ภายใต้การจัดจำหน่ายของ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) หรือ OCC ถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แจ้งผลตรวจพบสารปรอทในผลิตภัณฑ์ KMA Multi Face Stick สี Pink Aurora
โดยในโพสต์ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เมื่อได้รับหนังสือแจ้งจาก อย. ว่า กองด่านศุลกากร ตรวจพบสารปรอทในสินค้าล็อตดังกล่าว ซึ่งผลิตจากโรงงานในประเทศจีน ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีทั้งหมด 3 สี แต่ตรวจพบเพียงสีเดียว
ภายหลังได้รับแจ้ง บริษัทได้สั่งเก็บสินค้ากลับทันที และส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 สี เข้าตรวจสอบซ้ำ ในห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ได้แก่ ALS Laboratory Group (Thailand) และ Bureau Veritas Shenzhen Co., Ltd. ซึ่งทั้งสองแห่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO17025 โดยผลตรวจ ไม่พบสารปรอทหรือโลหะหนักปนเปื้อน
ผู้โพสต์ ระบุอีกว่า มีการได้ขอเอกสารผลตรวจจาก อย. เพื่อเปรียบเทียบกระบวนการตรวจสอบ รวมถึงขอส่งตรวจซ้ำในกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า อาจกระทบความเชื่อถือของหน่วยงานหากผลไม่ตรงกัน
ต่อมาในเดือนกันยายน 2568 อย. ได้เผยแพร่ประกาศเตือนผู้บริโภคผ่านเพจทางการ รวมถึงเพจของ สภาองค์กรของผู้บริโภค ว่า ตรวจพบสารปรอทใน ล็อต BP240103B ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์อย่างกว้างขวาง ผู้บริโภคบางส่วนแสดงความกังวลและตำหนิแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย
พร้อมกันนี้ได้เข้าชี้แจงต่อสื่อและผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงผู้มีอิทธิพลด้านความงามหลายราย ซึ่งภายหลังได้เผยแพร่ข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติม ในวันเดียวกัน เพจ KMA Cosmetics ได้เผยแพร่คำชี้แจงยืนยันว่า สินค้าผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทุกขั้นตอน และขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานรัฐ
ในโพสต์ยังระบุถึงผลกระทบจากการต้องทำลายสินค้าที่ถูกประกาศเตือน ซึ่งต้องดำเนินการโดยวิธีเผา ทำให้เกิดต้นทุนสูงและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สวนทางกับนโยบาย ESG ที่บริษัทกำลังดำเนินการ
ทั้งนี้ บริษัท OCC ระบุว่า เป็นองค์กรที่เข้าโปรแกรมต่อต้านคอร์รับชั่น และเราได้ CAC Certificate คือ ใบรับรองที่ออกให้โดยแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption)
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาดังกล่าวเป็นการอ้างอิงจากโพสต์สาธารณะบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงเพิ่มเติมจาก อย.
อ้างอิง :


โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Teerada Noi Ambhanwong” โพสต์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568: https://www.facebook.com/teeradaa/posts/pfbid023ajPjN3GpYxEeFEqu6Ld5rwGrh48YZso2WysUFwy1JrxnTEUX3X5nd73hxNwCYxkl
เพจ “ผู้บริโภค” โพสต์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568: https://www.facebook.com/wecanchoose/posts/pfbid0dCu1wdEx9ZXj88iKSVQ3MW3GFuWSf7UHNEGYEKKefQe155wnMihPmsMcSk81zhMal
เพจ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” (TCC Thailand) โพสต์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568: https://www.facebook.com/tccthailand/posts/pfbid0CWwAcFA3NAHY5bYQFvjHkUsp1cufs3N6gKPiQJNfJbkB8aBqum93Y98jGnBN4BeRl
เพจ “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)” โพสต์ประกาศเตือนเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568: https://www.facebook.com/FDAThai/posts/pfbid0yu7ixwn6vzwonHJUTTSmDaApGAvaquC72RAtzWWMcTbGj9fC3obkr1jK8B8dTpCWl
เพจ “KMA Cosmetics” โพสต์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568: https://www.facebook.com/kmacosmetics/posts/pfbid0Kv2BeXWYvzgYY9dudnTQr47sXJ1aCuXkUFAxXddZgDvFf4GWGpS2z7x5s3jZk1uYl