จับตาผลประชุมเฟดวันนี้ โบรกฯ ฟันธงคงดอกเบี้ยแน่นอน

จับตาผลประชุมเฟดวันนี้ โบรกฯ ฟันธงคงดอกเบี้ยแน่นอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยเช้าวันพฤหัส โดยตลาดจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี

โดย ลีโอ โกรฮาวสกี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบีเอ็นวาย เมลลอน เวลท์ แมเนจเมนต์ คาดการณ์ว่า มีโอกาสน้อยที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หรือในเดือนมี.ค. แต่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และจะปรับขึ้น 2-3 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ นายโกรฮาวสกียังกล่าวด้วยว่า การประชุมเฟดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะจับตามองในสัปดาห์นี้ และคาดว่าแถลงการณ์ภายหลังการประชุมครั้งนี้จะค่อนข้างมีความสมดุล เช่นเดียวกับการประชุมคราวที่แล้ว และเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนมิ.ย.

อนึ่งประชุมครั้งหลังสุดเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.50-0.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปี 2559 และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี โดยคณะกรรมการเฟดได้ออกรายงานคาดการณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำเดือนธ.ค.ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ครั้งละ 0.25% โดยเพิ่มขึ้นจากจำนวน 2 ครั้งที่มีการคาดการณ์ในเดือนก.ย. ส่วนในปี 2018 และ 2019 เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

 

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า การประชุม FOMC เริ่มเมื่อคืนที่ผ่านมาเช่นกัน (ผลการประชุม จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยเช้าวันพฤหัส) โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ครั้งนี้ 14.5% คือไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมีโอกาสมากกว่าที่จะปรับขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของ Fed อยู่ที่ 0.50-0.75% แต่โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอยู่ในการประชุม เดือน พ.ค. ซึ่งหมายความว่า การประชุมเดือน มี.ค. ก็อาจยังไม่ปรับขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้หาก Fed โยนการขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นครึ่งปีหลัง น่าจะทำให้ Fund Flow นั้น ยังไหลเวียนในตลาดเอเซีย ไปอีกระยะนึง แต่เราจะเห็นเงินลงทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดหุ้น ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่าและตลาดหุ้นมีความเสี่ยงจากนโยบายของนาย Trump   

Back to top button