EKH กางเป้าปี 61 รายได้พุ่งเฉียด 600 ลบ. รุกเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้วหนุนงบฯ โตเด่น

EKH กางเป้าปี 61 รายได้พุ่งเฉียด 600 ลบ. รุกเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้วหนุนงบฯ โตเด่น มั่นใจปีแรกทำรายได้ 30-40 ล้านบาท และถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี พร้อมเดินหน้าศึกษาตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คาดชัดเจนในไตรมาส 3/61


บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 61 เติบโต 8-10% จากปี 60 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 540 ล้านบาท จากการปรับขึ้นค่าห้องพักในส่วนที่ปรับปรุงใหม่ราว 10% ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดศูนย์เด็กหลอดแก้วที่ร่วมทุนพันธมิตรจีน โดยคาดว่าจะมีลูกค้าราว 10 ราย/เดือน และทำรายได้ในปีแรกได้ราว 30-40 ล้านบาท และคาดจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปีข้างหน้า

โดย ศูนย์เด็กหลอดแก้ว เป็นธุรกิจเพื่อรองรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรจีน และคาดจะมีประสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5-10% ของรายได้รวม ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว ทำให้จะช่วยสนับสนุนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2560 เติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับอากาศที่ยังมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดโรคระบาด

ด้าน นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล EKH เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทได้จัดงาน “EKI-IVF Grand Opening Ceremony” เพื่อเปิดตัวศูนย์ให้คำแนะนำปรึกษาผู้มีบุตรยาก ซึ่งดำเนินงานโดย บริษัท เอกชัย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทย่อยที่ EKH ถือหุ้นในสัดส่วน 57% และพันธมิตรจากจีนที่ถือหุ้น 25% รวมถึงผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมีลูกค้าเข้าใช้บริการอยู่ที่ 10 รายต่อเดือน แบ่งเป็นลูกค้าชาวจีนในสัดส่วน 70% และชาวไทย 30% เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลจีนสนับสนุนการมีมีบุตรคนที่ 2 ประเมินว่าชาวจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจะมีมากกว่า 100 ล้านคู่ รวมถึงผู้ที่มีอายุมากที่มีความเสี่ยงในการมีบุตร ซึ่งที่ผ่านมาอายุของผู้ที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เกิน 35 ปี

“โอกาสมีบุตรยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับอายุเป็นสำคัญ และความพร้อมของคนไข้ หมอ และนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งเรื่องเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานสากล และที่พักสำหรับคนไข้ รวมถึงมีจุดเด่นในสถานที่ตั้งที่ไม่แออัด และมีสถานที่เที่ยวพักผ่อนในโปรแกรมรักษา” นพ.อำนาจ กล่าว

นอกจากนี้คาดว่าศูนย์ผู้มีบุตรยากจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีแรกที่เปิดให้บริการประมาณ 30-40 ล้านบาทและจะถึงจุดคุ้มทุนได้ใน 2 ปีข้างหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 30% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% จากการเปิดศูนย์ผู้มีบุตรยากที่มีอัตรากำไรสูง รวมทั้งบริษัทยังเดินหน้าควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจด้วย

นพ.อำนาจ เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 3/61 ถึงไตรมาส 4/61 โดยใช้งบลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนศูนย์ไตเทียมที่จะทำการขยายเพิ่มอีก 10 เตียง เป็น 24 เตียงอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ คาดว่าภายในครึ่งปีหลังของปีนี้จะเริ่มออกแบบได้และใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวปลายปี 61 ถึงต้นปี 62

Back to top button