ดักเก็บ FTE หลังเป็นขาลงมานาน ลุ้นงบฯ Q2 สดใส หลังตุน Backlog แน่น 350 ลบ.

ดักเก็บ FTE หลังเป็นขาลงมานาน ลุ้นงบฯ Q2 สดใส หลังตุน Backlog แน่น 350 ลบ.-เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ เวลา 14.41 น. อยู่ที่ระดับ 2.34 บาท ลดลง 0.18 บาท หรือ 7.14% สูงสุดที่ระดับ 2.38 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.12 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ณ เวลา 14.41 น. อยู่ที่ระดับ 2.34 บาท ลดลง 0.18 บาท หรือ 7.14% สูงสุดที่ระดับ 2.38 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.12 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนทำจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 60

ด้านนายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ FTE เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้บริษัทรับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงมูลค่ารวมกว่า 115 ล้านบาท โดยรับงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) 4 โครงการ มูลค่า 80 ล้านบาท งานรับเหมาจากโครงการขนาดใหญ่ (EPC) 1 โครงการมูลค่ารวม 35 ล้านบาท

อีกทั้งยังรับงานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมอีกกว่า 4 แห่ง มูลค่ารวม 20 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนในอนาคตจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 110 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 240 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังได้ยื่นประมูลงานการไฟฟ้านครหลวง (MEA) มูลค่าโครงการ 50 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลการประมูลในเดือน พ.ค. และเตรียมเข้าประมูลงานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่าโครงการ 50 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงไตรมาส 3 นี้

“ในปีนี้บริษัทยังเดินหน้าประมูลงานโครงการออกแบบ-ติดตั้งระบบดับเพลิงของทั้งภาครัฐและเอกชน และนำเสนอผลิตภัณฑ์กับกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมา รวมถึงการเข้าเสนองานกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่ม บริษัทมั่นใจว่าจะประมูลงานได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้” นายทักษิณ กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/61 บริษัทมีรายได้รวม 224.15 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 236.62 ล้านบาท จำนวน 12.47 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 5.27% และมีกำไรสุทธิ 16.62 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.23 ล้านบาท จำนวน 10.61 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 38.96 % สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวลดลงเนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่ส่งมอบงานล่าช้า ส่งผลให้การรับรู้รายได้ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

Back to top button