“เสี่ย ป.” ยันเคลียร์ใจ “อานี” หมดทุกประเด็น เตรียมตั้งโต๊ะแถลงความบริสุทธิ์พรุ่งนี้!

"เสี่ย ป." ยันเคลียร์ใจ "อานี" หมดทุกประเด็น เตรียมตั้งโต๊ะแถลงความบริสุทธิ์พรุ่งนี้!


จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.61 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บุกจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ดารานักแสดงหนุ่มในร่วมกับนายปริญญา และนางสาวสุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่ชายและพี่สาวข้อหาหลอกนักธุรกิจชาวต่างชาติลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์ในประเทศไทยในชื่อ ดราก้อน คอยน์ (Dragon Coin) มูลค่า 5,564.44 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นเงินสกุลไทย 797.40 ล้านบาท

ล่าสุด แหล่งข่าวในวงการเงินดิจิทัล เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า นักธุรกิจชาวต่างชาติที่ถูกหลอกให้ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์ดังกล่าว คือ นายอาร์นี โอตาวา ซาริมา ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเงินอิเล็กทรอนิกส์วัย 22 ปี ชาวฟินแลนด์ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตอนนี้เตรียมเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุดหลังมีการพบเส้นทางผ่องถ่ายเงิน จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำเงินที่ถูกโกงไปจำนวน 797 ล้านบาทคืนกลับมาได้

พร้อมกันนี้ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ของเมืองไทย ยังเตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 20 ส.ค.61 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศาลาแดง โรงแรมดุสิต ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการการต้มตุ๋นนักธุรกิจหนุ่มให้มาลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์จนสูญเงินเกือบ 800 ล้านบาท

 

โดยแหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายประสิทธิ์ เคยเกี่ยวข้องกับการระดมเงินดิจิทัลเพื่อออกเหรียญ Dragon Coin ร่วมกับนายอานี่และนายปริญญา แต่ภายหลังถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องการระดมทุน ซึ่งนายปริญญาสัญญาว่าจะนำเงินที่ได้จากการออกเหรียญดังกล่าวมาชำระคืนให้กับนายประสิทธิ์และเจ้าทุกข์ แต่สุดท้ายไม่ได้ทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้

ล่าสุดวันที่ 15 ส.ค.61 มีการรายงานว่า น.ส.สุพิชย์ฌา พี่สาวของนายจิรัชพิสิษฐ์ พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกออกหมายจับพร้อมนายจิรัชพิสิษฐ์ และนายปริญญา จารวิจัต พี่ชาย ในคดีที่ผู้เสียหายชาวต่างชาติแจ้งความเอาผิดในคดีหลอกลวงให้ลงทุนสกุลเงินดิจิตอล (บิตคอยน์) มูลค่าเสียหายกว่า 797 ล้านบาท

ด้านพ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า น.ส.สุพิชย์ฌา มามอบตัวที่กองปราบปรามแล้วส่วนบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา
สำหรับความคืบหน้าในการออกหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาอีก 5-6 รายนั้น มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสาร ซึ่งมั่นใจว่าหลักฐานที่มีจะสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดรวมถึงเจ้าพ่อตลาดหุ้นที่แม้ว่าจะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างเจรจากับผู้เสียหายก็ตาม

Back to top button