PRIN วิ่งกระฉูด ทุบสิถิติตั้งแต่เข้าเทรด หลัง “เคพีเอ็นฯ” เข้าถือหุ้นใหญ่ 30.57%
PRIN วิ่งกระฉูดทุบสถิติ หลังแจงเข้าซื้อ “เคพีเอ็น โฮลดิ้ง” มูลค่า 4.03 พันลบ.ณ เวลา 10.08 น.อยู่ที่ 2.78 บาท บวก 0.24 หรือ 9.45% มูลค่าการซื้อขาย 221.24 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2.84 บาท ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN ณ เวลา 10.08 น.อยู่ที่ 2.78 บาท บวก 0.24 หรือ 9.45% มูลค่าการซื้อขาย 221.24 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.05%
ทั้งนี้ ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2.84 บาท ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาด
ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจาก PRIN ระบุว่า บริษัทจะเข้าซื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด (KPNH) โดยเตรียมเพิ่มทุน 1.92 พันล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.10 บาท จัดสรรให้กับนักลงทุนในวงจำกัด(PP) รวม 960 ล้านหุ้น และจัดสรรให้กับ KPNH อีก 960 ล้านหุ้น ส่งผลให้ KPNH เข้ามาถือหุ้นในบริษัท 30.57% ซึ่งจะได้ขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อกิจการของบริษัททั้งหมดต่อไป
โดย PRIN ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติการเข้าทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการโอนและรับโอนกิจการทั้งหมดกับ KPNH และกลุ่มผู้ถือหุ้นของ KPNH และอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 เพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer หรือ EBT หรือ “การโอนกิจการทั้งหมด”) จาก KPNH โดยบริษัทจะซื้อและรับโอนมาซึ่งสินทรัพย์หนี้สิทธิหน้าที่ และภาระผูกพันทั้งหมดที่ KPNH มีหรือพึงมี ณ วันที่รับโอนกิจการจาก KPNH มายังบริษัท ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 4,032 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะชำระราคาค่าซื้อขายกิจการดังกล่าวบางส่วนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทและส่วนที่เหลือเป็นเงินสด โดยภายหลังการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่บริษัทแล้ว KPNH จะเลิกกิจการและชำระบัญชีเพื่อเลิกบริษัท
อย่างไรก็ตามก่อนการโอนกิจการทั้งหมด KPNH จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KPNGC) ในสัดส่วน 100% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วของ KPNGC ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดเพื่อการอยู่อาศัย (Residential Condominium)
ทั้งนี้ สินทรัพย์หลักของ KPNGC ได้แก่ ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ต่างๆ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะ แคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ , โครงการ เดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ,โครงการ เดอะ ดิโพลแมท สาทร และโครงการ เดอะ ดิโพลแมท 39
พร้อมกันนี้บริษัทจะซื้อและรับโอนสินทรัพย์ หนี้ สิทธิหน้าที่ และภาระผูกพันทั้งหมดจาก KPNH ที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคตก่อน (และรวม) วันโอนกิจการเสร็จสิ้น ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมด โดยกิจการทั้งหมดที่บริษัทจะซื้อและรับโอนมาจาก KPNH แบ่งเป็นประเภทหลักๆดังนี้
1. ทรัพย์สินที่จะซื้อจาก KPNH หุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 8,000,000 หุ้น ใน KPNGC คิดเป็น 100% โดยมีราคาซื้อขายหุ้นละ 504 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 4,032,000,000 บาท โดยบริษัทจะชำระราคาค่าซื้อขายหุ้น KPNGC ดังกล่าวนี้เป็นหุ้นสามัญออกใหม่ของบริษัทจำนวน 960,000,000หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10 บาท รวมมูลค่าหุ้นสามัญออกใหม่ทั้งสิ้น 2,016,000,000บาท
หรืออีกนัยหนึ่งคือ KPNH จะจองซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัท โดยจะชำระเงินค่าหุ้นออกใหม่ด้วยหุ้นของ KPNGC ที่ตนถืออยู่ (Share Swap) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1 หุ้นของ KPNGC ต่อ 240 หุ้นใหม่ของบริษัทเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง และชำระเป็นเงินสดอีกจำนวน 2,016,000,000บาท รวมเป็นมูลค่าเท่ากับ 4,032,000,000 บาท
2. หนี้สินที่จะรับโอนจาก KPNH บริษัทจะรับโอนหนี้สินทั้งหมดที่ KPNH มีในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคต ณ วันโอนกิจการเสร็จสิ้นโดยจะหักหนี้ที่บริษัทจะรับโอนมาจาก KPNH ณ วันรับโอนกิจการออกจากราคาซื้อขายส่วนที่จะชำระเป็นเงินสด
ทั้งนี้ การรับโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions of Precedent) ตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงและสัญญาโอนกิจการทั้งหมดได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนโดยเงื่อนไขบังคับ