6 โบรกเชียร์ซื้อ KTB ชี้ราคาถูก-ไร้สำรองครึ่งปีหลัง-พร้อมปันผลกว่า 5%

6 โบรกพร้อมใจแนะซื้อ KTB ชี้ราคาถูก ผลประกอบการครึ่งหลังปี 58 ดี คาดว่าปีนี้ไม่มีการตั้งสำรองเพิ่ม พร้อมปันผลกว่า 5%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดยราคาปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าบุ๊คที่ PBV 0.98 เท่า (ข้อมูลล่าสุด 24 ก.ค. 58) ขณะที่โบรกเกอร์มีความเห็นในทิศทางเดียวกันด้านราคาหุ้น ขณะที่เชื่อว่าปีนี้จะไม่มีการตั้งสำรองเพิ่ม เนื่องจากได้ตั้งสำรองไว้ในไตรมาส 2/58 มากพอสมควรแล้ว นอกจากนี้คาดว่าจะมีการจ่ายปันผลที่ประมาณ 5% ขณะที่ราคาหุ้น KTB เมื่อวันศุกร์ (24 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 16.90 บาท ปรับลดลง 0.30 บาท หรือ 1.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 965.60 ล้านบาท

 

รูปประกอบ: ASPEN

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) แนะนำ “BUY”KTB ราคาเป้าหมาย 21.03 บาท/หุ้น อิง P/BV ของปี 58 ที่ 1.17 เท่า ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าถูก โดยซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี และคาดว่าKTB จะสามารถจ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 5%รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารน่าจะปรับตัวดีขึ้น และไม่น่าจะมีการตั้งสำรองพิเศษในปีนี้อีกแล้ว

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.)แนะนำ “ซื้อ”  KTB ราคาเป้าหมาย 22.25 บาท/หุ้น โดยราคาปัจจุบันที่ร่วงลงมามาก ทำให้ราคาเหมาะสมของ KTB มี Upside มาก 29% แม้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 จะออกมาดีเกินคาด แต่มองว่าเป็นเพียงผลจากรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ ขณะที่ผลดีจากการให้สาขาของธนาคารติดตามทวงหนี้ในไตรมาสนี้อาจต้องติดตามผลสักระยะ

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) แนะนำ “BUY”KTB โดยมีราคาเหมาะสมปี 58  20.00 บาท/หุ้น เนื่องจาก การประชุมนักวิเคราะห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับประเด็น NPL ซึ่งควบคุมได้ดีเกินคาดในไตรมาส 2/58 ขณะที่ KTB ให้มุมมองเชิงบวกต่อที่ประชุมในประเด็นนี้ว่าเป็นผลที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนวิธีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด และยังระบุว่าสำหรับสินเชื่อที่ให้กับ SSI ได้ตั้งสำรองฯในจำนวนที่มากเพียงพอแล้วในไตรมาส 2/58 ทำให้คลายกังวลลง

ทั้งนี้ แนวโน้มการตั้งสำรองในครึ่งปีหลังของปี 58 จะลดลงสู่ระดับปกติหลังจากได้ตั้งสำรอฯพิเศษในไตรมาส 2/58 ซึ่งน่าจะเพียงพอในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้ว โดยรวมเป้าหมายทางการเงินหลักของธนาคาร คือ การเติบโตสินเชื่อ, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายสำรอง ไม่ต่างจากประมาณการกำไรของฝ่ายวิจัย ซึ่งยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 3.1 หมื่นล้านบาท

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) มองว่า KTB จะเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ แม้ว่าโครงการดังกล่าวอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้เร็วอย่างที่คาดไว้เดิม แต่ได้หันไปเน้นปล่อยสินเชื่อ SME และสินเชื่อธุรกิจเพิ่มเติมสินเชื่อภาครัฐได้

แม้ว่าฝ่ายวิจัยจะคาดว่ากำไรทั้งปีอาจลดต่ำลงจากปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองจำนวนมากในไตรมาส 2/58 แต่คาดว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 58 จะเติบโตจากการตั้งสำรองที่ลดต่ำลง ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KTB โดยมีราคาเป้าหมาย 21.00 บาท/หุ้น

 

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) ว่า ผู้บริหารเปิด KTB เผยว่า แนวโน้มในครึ่งปีหลังปี 58 คาดฟื้นตัวเล็กน้อย จากสินเชื่อบรรษัทที่ปรับตัวดีขึ้นและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญที่ต่ำลงจากช่วงครึ่งครึ่งปีแรกปี 58 จากแนวโน้มดังกล่าว ทั้งนี้ เชื่อว่าการประมาณการของฝ่ายวิจัยอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว

โดยประมาณการกำไรในปี 58 ที่ 28 พันล้านบาท ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 36 พันล้านบาท ในปี 59 เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งคาดว่าน่าจะมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 58 จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญที่ต่ำกว่าคาดและการบริหารหนี้เสียที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปี 58 ขณะที่ ยังไม่เปลี่ยนแปลงราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 58 ที่ 19.00 บาท อิงค่า PBV ที่ 1.1 เท่า (ต่ำกว่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.3 เท่า) และคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

 

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น KTB โดยมีราคาเป้าหมาย 21 บาท/หุ้น อิง PBV 1.2 เท่า โดยราคาหุ้นที่ซื้อขายกันที่ Forward PBV 0.9 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับในอดีตที่ซื้อขายกันที่ PBV เฉลี่ย 1.2 เท่า ถือว่ามี Downside ที่จำกัด

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปี 58 ที่ 30,525 ล้านบาท โดยกำไรสำหรับครึ่งปีแรกคิดเป็น 53% ของประมาณการ ส่วนผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดถือเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในระยะสั้น แม้ว่าในไตรมาสถัดๆ ไปอาจไม่เห็นแรงหนุนจาก NIM ที่โดดเด่นแล้วก็ตาม

Back to top button