“สหรัฐฯ” เล็งรีดภาษีสินค้า “อียู” เพิ่มอีก 3.1 พันล้านดอลล์ เซ่นปมขัดแย้งคดีแอร์บัส!

ยังไม่จบ! “สหรัฐฯ” เล็งรีดภาษีสินค้านำเข้า “อียู” เพิ่มอีก 3.1 พันล้านดอลล์ เซ่นปมขัดแย้งคดีแอร์บัส


สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เปิดเผยว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้ามูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์จากสินค้าของประเทศยุโรป ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับคดีการอุดหนุนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน

USTR ระบุในประกาศที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารว่า “USTR กำลังพิจารณาเพิ่มรายการสินค้าของฝรั่งเศส, เยอรมนี, สเปน และสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจจะถูกรวมอยู่ในรายการสินค้าขั้นสุดท้ายที่จะต้องเสียภาษีนำเข้าตามมูลค่าที่ระดับสูงถึง 100%”

คำประกาศระบุว่า “รายการผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมประกอบด้วยสินค้า 30 รายการที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้ามูลค่าประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์ ตามการประเมินมูลค่านำเข้าสำหรับปีปฏิทิน 2561” โดย USTR ขอให้ภาคสาธารณะส่งความเห็นเกี่ยวกับการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงดังกล่าวภายในวันที่ 26 ก.ค.นี้

USTR ระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนมาตรการตามกฎหมายมาตรา 301 ของสหรัฐฯที่เกี่ยวกับการบังคับใช้สิทธิทางภาษีตามที่องค์การการค้าโลก (WTO) ตัดสินในคดีความขัดแย้งครั้งใหญ่เกี่ยวกับการอุดหนุนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินพาณิชย์

หลังจากที่ WTO ตัดสินเกี่ยวกับคดีเงินอุดหนุนอุตสาหกรรมเครื่องบินในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯได้สั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของยุโรปเพิ่มอีก 7.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 ต.ค. 2562 ซึ่งได้เพิ่มความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและยุโรป

โดยในเดือนก.พ.ปี 2563 USTR ประกาศว่า จะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าเครื่องบินจากสหภาพยุโรป (EU) เป็น 15% จาก 10% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ปรับรายการสินค้าของยุโรปที่จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 25% ด้วย

นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯเปิดเผยในการไต่สวนของสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐฯจะยังคงเก็บภาษีสินค้าของยุโรปต่อไป จนกว่าจะสามารถแก้ไขประเด็นขัดแย้งเรื่องการอุดหนุนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินกับทาง EU

แต่นายฟิล โฮแกน คณะกรรมาธิการการค้าของ EU เปิดเผยกับบรรดารัฐมนตรีการค้าของยุโรปเมื่อต้นเดือนนี้ว่า สหรัฐฯได้ระงับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

          “หากกรณีนี้ยังดำเนินต่อไป EU ก็แทบไม่มีทางเลือก แต่ต้องใช้สิทธิตอบโต้ และกำหนดมาตรการลงโทษของเราเอง” โฮแกน กล่าว

ด้านไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า EU หวังว่า WTO จะทำการตัดสินใจในเดือนนี้ว่า EU จะสามารถตอบโต้สหรัฐฯได้มากเพียงใด แต่เจ้าหน้าที่ด้านการค้านระบุว่า อาจต้องรอการตัดสินใจดังกล่าวของ WTO จนถึงเดือนก.ย.ปีนี้

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในปี 2547 สหรัฐฯได้ยื่นฟ้อง WTO ว่า EU ให้เงินอุดหนุนที่ผิดกฎหมายกับบริษัทแอร์บัสในรูปแบบต่างๆ ต่อมา EU ก็ได้ยื่นฟ้องต่อ WTO เช่นกันว่า สหรัฐฯให้เงินอุดหนุนที่ผิดกฎหมายแก่บริษัทโบอิ้ง และ WTO ก็ได้ตัดสินว่า ทั้งสหรัฐฯและ EU ต่างก็ให้เงินอุดหนุนที่ผิดกฎหมายกับบริษัทผลิตเครื่องบินของตนเอง

Back to top button