“ศบค.” เคาะหลักการรับต่างชาติ 4 กลุ่มเข้าไทย กักตัว 14 วัน-ส่ง จนท.ติดตามใกล้ชิด

ที่ประชุม “ศบค.” ชุดใหญ่ เคาะหลักการรับต่างชาติ 4 กลุ่มเข้าไทย กักตัว 14 วัน-ส่ง จนท.ติดตามใกล้ชิด


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค.63) มีมติเห็นชอบในหลักการกรณีการผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวัสโควิด-19

สำหรับชาวต่างชาติ 4 กลุ่มที่จะผ่อนผันให้สามารถเดินทางเข้าประเทศ ได้แก่

1.กลุ่มที่เข้ามาร่วมงานแสดงสินค้า

2.กองถ่ายทำภาพยนตร์

3.กลุ่มที่เข้ามาตามโครงการ Medical & Wellness Program เพื่อเข้ารับบริการทางสุขภาพ

และ 4. กลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

โดยแนวทางปฏิบัติเบื้องต้นคือ จะต้องมีการกักตัวใน Alternative Quarantine และจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มที่เดินทางเข้ามาตลอดระยะเวลา

ส่วนกลุ่ม Medical & Wellness Program หลังจากเข้ามาพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อไปในที่ต่างๆ ได้

ขณะที่กลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card  ที่ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 10,363 ราย แบ่งเป็นอยู่ในไทย 3,108 ราย และ อยู่ต่างประเทศ 7,255 ราย จะเริ่มนำร่องให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ 200 ราย

ส่วนรายละเอียดได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณากำหนดแนวทางต่อไป

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการพิจารณาแนวทาง มาตรการ หลักเกณฑ์ และวิธีการปฏิบัติสำหรับการนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ เมียนมา ลาว และกัมพูชาเข้ามาในประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานรายงานว่า ตอนนี้มีความต้องการใช้แรงงานที่ไร้ฝีมือ ต้องใช้แรงกายเป็นส่วนใหญ่ใน 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีใบอนุญาตการทำงาน (Work Permit) และมีวีซ่าอยู่แล้ว ซึ่งต้องการกลับเข้ามาทำงานใหม่ จำนวน 69,235 คน และแรงงานที่ยังไม่มี Work Permit ไม่มีวีซ่าแต่ต้องการนำเข้ามา 42,168 คน รวมแล้วประมาณ 120,000 คน

โดยการเข้ามาของแรงงานต่างชาติจะเน้นในธุรกิจก่อสร้างงานโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมอาหาร เข้ามาแล้วต้องเข้า State Quarantine และ ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งเกือบๆ 20,000 บาทต่อคน อาจจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นไป จึงมีการพูดถึง Organizational Quarantine ให้หน่วยงานจัดพื้นที่ให้แรงงานกลุ่มนี้เข้ามากักตัว โดยจะต้องมีการตรวจมาตรฐานทั้งจากกระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคงตามที่ ศบค.กำหนด ซึ่งช่องทางที่แรงงานเหล่านี้จะเข้ามาคือ สระแก้ว หนองคาย มุกดาหาร ตาก ระนอง และสนามบินสุวรรณภูมิ

Back to top button