รำลึก 19 ปี เหตุการณ์ “9/11” วินาศกรรมช็อกโลก สะเทือนขวัญสั่น “หุ้นไทย”

รำลึก 19 ปี เหตุการณ์ "9/11" วินาศกรรมช็อกโลก สะเทือนขวัญสั่น "หุ้นไทย"


เนื่องในวันที่ 11 กันยายน เป็นวันครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์ 9/11 ที่สะเทือนขวัญแก่ผู้คนไปทั่วโลก “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้นำเหตุการณ์ในวันดังกล่าวกลับมารำลึกถึงอีกครั้ง

“9/11” วินาศกรรมช็อกโลก

โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ได้เกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบิน 4 ลำ และบังคับให้เครื่องบิน 2 ลำ พุ่งชนตึกแฝด เวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ในนครนิวยอร์ก และ อาคารแพนดากอน ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางการเมืองของชาวอเมริกัน และเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ระบอบทุนนิยม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์พังทลายลง โดยโศกนาฎกรรมครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 ราย รวมทั้งเหยื่ออีก 1,000 รายที่สูญหายไม่พบแม้กระทั่งศพ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯที่นำโดย จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในขณะนั้น ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มก่อการร้าย “อัลกออิดะฮ์” นำโดย นายอุซามะฮ์ บิน ลาดิน ซึ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาในครั้งแรก ขณะที่ในปี 2547 กลุ่มก่อการร้าย “อัลกออิดะฮ์” ที่ตกเป็นกลุ่มต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลัง ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในที่สุด โดยอ้างมูลเหตุจากการที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนอิสราเอล และการมีบทบาททางทหารในคาบสมุทรอาหรับ อาทิ ในซาอุดิอาระเบีย และ อิรัก จนทำให้กลุ่มดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ จึงแก้เผ็ดด้วยวิธีที่โลกไม่อาจยอมรับได้ในเหตุการณ์ 9/11

ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาสหรัฐฯได้ประกาศสงครามต่อต้านการก่อการร้าย และในปี 2554 นายอุซามะฮ์ บิน ลาดิน ถูกพบตัวและถูกสังหารในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น สหรัฐฯต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างรุนแรงในระบบเศรษฐกิจของประเทศ จนทั่วโลกได้รับผลกระทบกันไปตามๆกัน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้กลุ่ม “อัลกออิดะฮ์” ยังคงโลดแล่นอยู่บนเส้นทางการต่อสู้ในพื้นที่ทั้งในประเทศเยเมน และคาบสมุทรอาหรับ หรือที่มีชื่อกลุ่มโดยย่อว่า “AQAP.” ทั้งยังมีข่าวเมื่อปี 2557 ว่า กลุ่มอัลกออิดะฮ์ ขยายพื้นที่ มายังอินเดีย บังคลาเทศ และพม่า ซึ่งนับได้ว่า มีความใกล้ชิดกับประเทศไทยเนื่องจากมีพรมแดนเชื่อมต่อกัน เนื่องจากมีการจัดตั้งผู้นำคนใหม่ขึ้นมาแทนที่คนเก่าอย่างไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ กลุ่ม “อัลกออิดะฮ์” ยังมีความสัมพันธ์ซึ่งเปรียบได้กับกลุ่มพี่กลุ่มน้องกับ “กลุ่มไอเอส” ซึ่งแม้ภายหลังมานี้ ทั้งสองกลุ่มจะมีอุดมการณ์ที่ไม่ลงรอยกันนักก็ตาม อีกทั้งกลุ่มอัลกออิดะฮ์ ที่นำโดย นายไอมาน อัล-ซาวาฮีรี ในขณะนี้ ได้ประกาศผ่านคลิปวิดีโอว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ได้ตั้งขบวนการหัวรุนแรงกลุ่มใหม่ ซึ่งจะเคลื่อนไหวต่อสู้ใน 3 ประเทศ คือ อินเดีย พม่า และบังกลาเทศ เพื่อฟื้นฟูระบบคอลีฟะห์ในดินแดนของชาวมุสลิม

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อใกล้ถึงวันครบรอบก็มีการเฝ้าระวังว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องบินพาณิชย์ กว่า 11 ลำในลิเบียได้ถูกกลุ่มก่อการร้ายในลิเบียยึดไป หลังบุกสนามบินชานกรุงตริโปลีเมื่อปี 2014 ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าพวกก่อการร้ายอาจนำมาใช้ก่อเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ในปีนั้น

ทั้งนี้ ภายหลังจากการณ์ดังกล่าว ในวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งถือเป็นวันครบรอบของเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ประชาชนหลายพันคนในสหรัฐฯ จะมารวมตัวกันในนิวยอร์ก ซิตี้, กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองแชงค์สวิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต โดยในนิวยอร์ก ซิตี้ พิธีจะจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 9/11 ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เข้าร่วมเป็นประจำทุกปีตั้งแต่เกิดเหตุโจมตี โดยจะมีการอ่านรายชื่อเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ทั้งในปี 2536 และ 2544

สะเทือนขวัญสั่น “หุ้นไทย”

เนื่องด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายที่สร้างความตื่นตะหนกให้แก่ผู้คนทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งภายหลังการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ในวันที่ 12 ก.ย. 2544 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (12 ก.ย. 2544) คณะกรรมการตลท. ได้ประชุมวาระพิเศษเพื่อพิจารณาผลกระทบจากเหตุการณ์วินาศกรรมในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ 11 ก.ย. 2544 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบทางลบต่อตลาดหลักทรัพย์ทุกแห่งทั่วโลก และในขณะนี้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีความสับสนและไม่กระจ่างชัดโดยทั่วกัน ซึ่งอาจมีความได้เปรียบเสียเปรียบในหมู่ผู้ลงทุนและพิจารณาเห็นว่าผู้ลงทุนโดยทั่วไปยังต้องการเวลาในการพิจารณาด้วยความรอบคอบถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการตลท.ได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เพื่อวิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วก.ล.ต โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 186 (1) จึงมีคำสั่งให้ปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวในวันพุธที่ 12 ก.ย. 2544 เป็นเวลา 1 วัน สำหรับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ยังคงสามารถดำเนินการได้ตามปกติ

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 13 ก.ย. พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นวันที่ตลาดหุ้นไทยกลับมาทำการซื้อขายอีกครั้ง หลังดัชนีปิดที่ระดับ 330.37 จุด ในวันที่ 11 ก.ย. 2544 โดยในวันที่ 13 ก.ย. 2544 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ 308.17 จุด ลดลง 22.2 จุด หรือลดลง 6.27% ขณะที่ 14 ก.ย. 2544 ดัชนีลดลงอีก 20.07 จุด โดยปิดตลาดที่ 288.10 จุด หรือลดลง 6.51% และในวันที่ 17 ก.ย. 2544 ดัชนีลดลงอีก 17.49 จุด ปิดตลาดที่ 270.61 จุด หรือลดลง 6.07% โดยมูลค่าตามราคาตลาดของตลาดหุ้นไทยระหว่าง 11-20 ก.ย. 2544 เสียหายกว่า 2.51 แสนล้านบาท

Back to top button