SINGER วอลุ่มแน่น-บวก 5% ปักธงรายได้ปี 64 โต 25% สินเชื่อแตะระดับ 1 หมื่นล้าน

SINGER วอลุ่มแน่น-บวก 5% ปักธงรายได้ปี 64 โต 25% สินเชื่อแตะระดับ 1 หมื่นล้าน โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 50 บาท คาดกำไร ปีนี้ 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(7ก.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ณ เวลา 15.29 น. อยู่ที่ระดับ 3.54 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 5.07% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 119.58 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/2564 ยังเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลของสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ และสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนทั้งปีคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะสามารถเติบโตแตะ 10,000 ล้านบาท ตามที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2564 คาดจะเติบโต 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 3,658.4 ล้านบาท

อีกทั้งล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีประกาศให้ SINGER เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 (1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2564)

โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของ SINGER ถือได้ว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และก้าวกระโดด จากกำไรสุทธิในปี 2562 อยู่ที่ 165.9 ล้านบาท และในปี 2563 อยู่ที่ 443.3 ล้านบาท ขณะที่ล่าสุดในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสอีกครั้งอยู่ที่ 140.1 ล้านบาท จากการปรับทัพองค์กรและการบริหารจัดการภายใน เพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire purchase) และพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) เป็นผู้นำตลาดที่เข้มแข็งด้วยทีมขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

และในปีนี้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ แต่พอร์ตสินเชื่อของบริษัทยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการมีจำนวนพนักงานขายและเครือข่ายสาขาย่อยของซิงเกอร์แฟรนไชส์เพิ่มขึ้น โดยพอร์ตสินเชื่อ ณ ไตรมาส 1/2564 (สิ้นมีนาคม 2564) อยู่ที่ 7,516 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ปรับคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” สำหรับ SINGER หลังแผนการขยายธุรกิจทำได้ตามเป้า ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกเลือกเข้า MSCI Small Cap ทำให้น่าจะมีความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น จึงมีมุมมองบวกในระยะยาว

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้น 69% จากฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Loan yield สินเชื่อ C4C ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 14.8% จากปีก่อนที่ 13.1% จากการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถกระบะที่มียีลด์เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ปล่อยสินเชื่อจำนำรถบรรทุก 10 ล้อ และค่าใช้จ่ายสำรองฯ ที่จะอยู่ในระดับต่ำ คาด credit cost ที่ 2.35% จากการเพิ่มสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อ C4C ที่มี NPLs ที่ต่ำกว่า โดยเปรียบเทียบกับสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท

Back to top button