EA ไตรมาส 3 ทยอยส่งมอบ “บัสไฟฟ้า” กว่า 100 คัน เชื่อดันรายได้ปี 64 โตเข้าเป้า 20%

EA ไตรมาส 3 ทยอยส่งมอบ "บัสไฟฟ้า" กว่า 100 เชื่อดันรายได้ปี 64 โตเข้าเป้า 20% ฟากโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมเฟสแรกเริ่มผลิตตั้งแต่ Q3/64 ส่วนโรงงานใน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 90% กำลังผลิต 3,000 คัน/ปี ด้านเรือโดยสารไฟฟ้า MINE SMART FERRY คาดส่งมอบครบ 27 ลำตามแผน


นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยข้อมูลภาพรวมของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 25 ส.ค.2564 เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทฯพร้อมเดินหน้าโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Amita Technology (Thailand) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในไตรมาสที่ 3/64

โดยปัจจุบันได้นำเข้าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ Amita Technologies Inc. ไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบเป็นแพ็คและโมดูลในสายการผลิตภายในประเทศ เพื่อตอบสนองการใช้ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ในช่วงแรกระหว่างรอโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่เสร็จเรียบร้อย

สำหรับโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EA Anywhere ได้ร่วมมือกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันคาลเท็กซ์ ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ไปแล้ว 9 แห่ง และมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2564

ส่วนโครงการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE SMART FERRY ได้เริ่มเก็บค่าโดยสารในราคาโปรโมชั่น 20 บาทตลอดสาย และเมื่อวันที่ 17 พ.ค.64 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ขยายจุดจอดเรือรับ-ส่งที่ต้นทางฝั่งเหนือจากท่าเรือนนทบุรีไปยังท่าเรือพระนั่งเกล้า ถึงท่าเรือสาทร ภายในไตรมาสที่ 3/64 จะมีการส่งมอบเรือโดยสารไฟฟ้าครบจำนวน 27 ลำ ตามแผนที่กำหนดไว้

ด้านโครงการรถโดยสารไฟฟ้า ปัจจุบันได้มีการประกอบรถโดยสารไฟฟ้าแล้วเสร็จกว่า 100 คัน โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในไตรมาส 3/2564 ช่วงเดือนสิงหาคม สำหรับโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภทอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา การก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 90% โดยเมื่อโรงงานเสร็จเรียบร้อยจะมีกำลังการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าอยู่ที่ปีละ 3,000 คันต่อปี

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจแบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ซึ่งถือเป็น New S-Curve ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%” นายอมร กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวด  6 เดือนของปี 2564 มีกำไร 2602.50 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 0.04% จากงวดเดียวกันปี ก่อนมีกำไร 2,601.48 ล้านบาท  รายได้รวมสำหรับงวดหกเดือนเพิ่มขึ้นจำนวน 704.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.89%

ในไตรมาส 2/64 มีกำไร 1,190.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.59% จากช่วงเดียวกันปี 63 ที่มีกำไร 1,149.42 ล้านบาท  โดยรายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 2/64 เพิ่มขึ้นจำนวน 759.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของรายได้กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล โต 49.74% ได้รับปัจจัยจากการปรับตัวของราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นเนื่องมาจากการส่งเสริมให้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) ในสัดส่วน 10% หรือ B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐาน เป็นการเพิ่มอุปสงค์ของน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะลดลงเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19

Back to top button