PK บวกแรง 5% ลุ้นครึ่งหลังออร์เดอร์เครื่องจักรทะลัก! หนุน Backlog ปีนี้แตะ 2 พันลบ.

PK บวกแรง 5% ลุ้นครึ่งหลังออร์เดอร์เครื่องจักรทำน้ำแข็ง-แปรรูปอาหารทะลัก! หนุน Backlog ปีนี้แตะ 2 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1ก.ย.64) ราคาหุ้น บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) หรือ PK ณ เวลา 11.10 น. อยู่ที่ 3.12 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.70% สูงสุดที่ 3.18 บาท ต่ำสุดที่ 3.02 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 113.97 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้านายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  PK เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฟื้นตัวในปี 64 หลังจากได้รับมีแรงกดดันจากการขาดทุนในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้

แม้ว่าในช่วงต้นปี 63 บริษัทยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีต่อคำสั่งซื้อเครื่องจักรที่ใช้ทำความเย็น และเครื่องจักรที่ใช้ผลิตและปรรูปอาหารของบริษัทในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ชะลอไป แต่ในช่วงตั้งแต่ช่วงปลายปี 63 มาถึงต้นปี 64 เริ่มเห็นสัญญาณบวกของการกลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในประเทศ และในอาเซียนที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ทั้งนี้ ออเดอร์สั่งผลิตเครื่องจักรทำน้ำแข็งและเครื่องจักรแปรรูปอาหารเข้ามาเพิ่มขึ้นมาก หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว มีการเปิดเมือง และการบริโภคต่างๆ กลับมา ส่งผลบวกต่อธุรกิจของลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออกที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และส่งผลบวกต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานของ PK กลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในหลายๆประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท แต่มองว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้น และไม่ส่งผลกระทบมากต่อการชะลอการสั่งซื้อของลูกค้ามากเท่ากับปีก่อน เพราะมองว่าภาคธุรกิจต่างๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทำให้รับมือกับผลกระทบของสถานการณ์ได้อย่างดี และกลยุทธ์ของบริษัทในช่วงนี้ก็ยังเน้นไปที่การรับออเดอร์จากกลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศหลักที่อยู่ในประเทศไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ผลกระทบแม้ว่าจะมีบ้างแต่น้อยกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก

ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 บริษัทยังคงมีการเดินหน้าเจรจากับลูกค้าในการหาออเดอร์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม ซึ่งคาดหวังจะรับออร์เดอร์งานใหม่จากลูกค้าเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อการรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อรองรับรายได้ในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับรายได้ปกติของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการควบคุมต้นทุนต่างๆของบริษัทเพื่อทำให้มีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมของผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 64 กลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น

“ปีที่แล้วคงเป็นปีที่เราถือว่าเป็นฐานของบริษัท และเริ่มกลับมาเติบโตขึ้นในปีนี้ หลังจากต้นปีสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น มีวัคซีนเข้ามา เริ่มเปิดเมือง ทำให้ลูกค้าเราเริ่มกลับมาสั่งออเดอร์มากขึ้น แม้ว่าตอนนี้โควิดจะกลับมาระบาดอีกรอบ แต่มองว่าหลายๆ ธุรกิจก็มีความพร้อมในการรับมือ ออเดอร์งานเครื่องจักรน้ำแข็ง ผลิตอาหารและนมของเราก็ยังมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามามากขึ้น รวมถึงที่ผ่านมาเรามีการปรับโครงสร้างต่างๆภายใน

Back to top button