ADD เด้ง 3% ท้ายตลาด ลุ้นรายได้ปีนี้โต 50% รับอุตสาหกรรม “โทรคมนาคม” ขยายตัว

ADD ดีดแรง 3% ท้ายตลาด จับตารายได้ในปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน รับแรงหนุนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขยายตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD ณ เวลา 16:20 น. อยู่ที่ระดับ 32.75 บาท บวก 1 บาท หรือ 3.15% สูงสุดที่ระดับ 33.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 95.16 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ADD เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ในปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 345.53 ล้านบาท บนพื้นฐานการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการทั้งในส่วนของการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) ผ่านช่องทางโทรคมนาคม รวมถึงการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง

โดยมองว่าช่วงปลายปี 2564 ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเริ่มมีการฟื้นตัว ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงการเปิดประเทศที่จะเข้ามาเป็นตัวแปรหลักของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อกลับมาอีกครั้ง

ขณะที่ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมของตลาดบริการดิจิทัลยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากมูลค่าตลาดรวมที่ 231,220 ล้านบาท สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้การให้บริการออนไลน์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนเครือข่าย 5G ถือเป็นโครงข่ายความเร็วสูง ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการใช้งานได้จริงในอนาคต หนุนให้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital Content ใหม่ ๆ ออกมารองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้บริการ Digital Content ในรูปแบบการสมัครสมาชิก จากปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจในอนาคตเติบโตอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทเตรียมขยายงานด้าน Content หรือ Solution ใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตตามการขยายตัวของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ผ่านการเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึงมองหาโอกาสในการลงทุนขยายธุรกิจในปี 2565 โดยบริษัทมุ่งเน้นมองหากิจการที่สามารถเข้ามาเติมเต็มใน Ecosystem เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้กับบริษัททั้งด้านรายได้และกำไรในทันที โดยบริษัทคาดหวังที่จะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10% และจะสามารถสรุปดีลให้เห็นความชัดเจนได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2565

นอกจากนี้ ความต้องการใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) ก็มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ Content สำหรับการดูแลสุขภาพและกีฬา เนื่องจากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น บริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่ม Content ดังกล่าว

ขณะที่ การให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) รวมไปถึงการให้บริการพัฒนาระบบชำระเงินค่าบริการ หรือสินค้าผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Carrier Billing) ให้แก่โอเปอเรเตอร์ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้ในรูปแบบส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) จากโอเปอเรเตอร์ และจากปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการขยายงานด้าน Content และ Solution ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ

Back to top button