WICE เด้ง 3% ลุ้นกำไร Q4/64 โต 190% เล็งปี 65 แตะ 652 ลบ. โบรกฯชูเป้า 24.80 บ.

WICE เด้ง 3% ลุ้นกำไร Q4/64 นิวไฮ 8 ไตรมาสติด โต 190% แตะ 173 ลบ. ตามรายได้ที่ปรับตัวขึ้น โบรกฯมองปี 65 โตต่อเนื่อง คาดรายได้ที่ 9.13 พันลบ. กำไร 652 ลบ. แนะ “เก็งกำไร” เป้า 24.80 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 ก.พ. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ณ เวลา 12:07 น.อยู่ที่ระดับ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 3.48% โดยทำจุดสูงสุดที่ 20.90บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 20.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53.73 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.พ. 2565) โดยคาดไตรมาส 4/2564 กำไรเพิ่มขึ้น 6.50% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 190.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ 173 ล้านบาท ซึ่งคาดกำไรจะทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 ตามรายได้ที่ปรับตัวขึ้นคาดเพิ่มขึ้น 3.50% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 67.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,353 ล้านบาท จากการเติบโตของ 2 ธุรกิจ คือ (1) ขนส่งทางทะเล (Sea Freight) ที่ฟื้นตัวขึ้นตามสถานการณ์ COVID-19 ประกอบกับนโยบายในการคุม COVID-19 ในต่างประเทศและการขาดแรงงานตามท่าเรือในสหรัฐฯ ทำให้เกิดปัญหา Supply Chain จากความแออัดตามท่าเรือส่งผลให้ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน อีกทั้งส่งผลให้ค่าขนส่งปรับตัวขึ้นมาก

ส่วน (2) ขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border) จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจีน ดำเนินการโดยบริษัทย่อย ETL ที่ได้รับความนิยมและลูกค้าบางส่วนใช้บริการทดแทนการขนส่งทางทะเลที่มีปัญหา Supply Chain อีกทั้งมีการเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์อีก 200-250 ตู้ ทำให้การขนส่งทำได้มากขึ้น และเพิ่มบริการแบบไม่เต็มตู้ (LTL) ที่มีรายได้ดีกว่าแบบเต็มตู้ ส่วนขนส่งทางอากาศ (Air Freight) และพิธีการศุลกากร/ขนส่งในประเทศ ยังไปได้แต่ไม่โดดเด่น และมีการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าในช่วงไตรมาส 2/2564 ขนาด 1 หมื่นตร.ม. ส่วนต้นทุนและ SG&A เพิ่มขึ้น 60% และ 84% ตามยอดขายและการขยายงาน

สำหรับปัญหา Supply Chain ของการขนส่งทางเรือยังไม่คลี่คลายในปัจจุบัน ทาง WICE ยังมีมุมมองบวกต่อค่าขนส่งทางทะเลที่น่าจะอยู่ในระดับสูงไปถึงกลางปี 2565 และจะเน้นการขนส่งไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักของ WICE ในขณะที่ขนส่งข้ามพรมแดนจะขยายงานต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มจำนวนรถทั้งของบริษัทและจาก Subcontract ด้วยการทยอยเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีแผนเพิ่มอีก 200-250 ตู้ และเริ่มให้บริการการขนส่งทางรถไฟ (Road-Rail Service) ในไตรมาส 1/2565อเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งทางรถบรรทุกไปยังรถไฟจากลาว-จีน และเพิ่มความรวดเร็วในการขนส่งให้กับลูกค้าที่ปัจจุบันมีปัญหาการขนส่งติดค้างที่ข้ามพรมแดนที่ด่านศุลกากรเวียดนามไปจีน จากนโยบาย Zero-Covid ของจีน

รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการขนส่งจากจีนไปตะวันออกกลางและยุโรปตามเส้นทาง One Belt One Road โดย WICE คาดจะให้บริการในปีนี้ได้ 3,000 ตู้ส่วนในธุรกิจขนส่งในประเทศจะมีการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าอีก 2 หมื่นตร.ม. ที่บางนา-ตราดและ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา จากที่มีอยู่ 2.40 หมื่นตร.ม. โดยมีเป้าหมายขยายคลังสินค้าเป็น 1 แสนตร.ม. ใน 3 ปี ข้างหน้า (ปี 2565-2567) และจะใช้เครือข่ายในต่างประเทศ 9 แห่งให้การเพิ่มและขยายบริการให้มากขึ้น ส่วนแผนการเพิ่มสาขาและ M&A ยังดำเนินงานอยู่แต่จะเน้นในประเทศเอเชียเป็นหลัก

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยปรับคาดการณ์กำไรปี 2564 ขึ้น 5.40% และปี 2565 ขึ้น 17.70% ตามแนวโน้มธุรกิจดีต่อเนื่อง จากแนวโน้มไตรมาส 4/2564 ดีกว่าที่เคยคาดจึงปรับกำไรปี 2564 ขึ้นเป็น 528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 501 ล้านบาท โต 162.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน บนคาดการณ์รายได้ที่ 7,611 ล้านบาท และในปี 2565 รายได้ที่ 9,134 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายงานและยังไม่ได้รวมการเพิ่มสาขาและ M&A ปรับกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 652 ล้านบาท จากเดิมที่ 554 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2565 ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากปริมาณการขนส่งที่ยังดีและค่าระวางเรือที่ยังสูง อีกทั้งแผนนำ ETL เข้าจดทะเบียนในเอ็มเอไอยังดำเนินการตามแผน ซึ่งคาดว่าจะไฟลิ่งได้กลางปีนี้และเข้าซื้อขายได้ในไตรมาส 4/2565

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับการอิงค่า P/E ที่ 24.8 เท่า (ค่าเฉลี่ย 4 ปี ย้อนหลัง) ราคาพื้นฐานที่ 24.80 บาท แม้ราคาหุ้นจ ปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ด้วยกำไรที่ยังมีแนวโน้มดีและยังมี Upside น่าสนใจแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

Back to top button