TEAMG บวก 4% ส่งซิกงบ Q1 โตเด่น ตุนแบ็กล็อกแน่น 3.75 พันลบ.

TEAMG บวก 4% ส่งซิกงบ Q1 โตเด่น ตุนแบ็กล็อกแน่น 3.75 พันลบ. หนุนรายได้ปีนี้โต 10% แง้มรอเซ็นสัญญางานเพียบกว่า 115 โครงการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(18 มี.ค.65)ราคาหุ้นบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือTEAMG ณ เวลา 12:10 น. อยู่ที่ระดับ 3.14 บาท  บวก 0.12 บาท หรือ 3.97% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 59.07 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้(15 มี.ค.65) ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  TEAMG เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานในมือรวมกว่า 371 โครงการ และเป็นโครงการที่คาดจะได้เซ็นสัญญามากถึง 115 โครงการ แบ่งเป็น

1.โครงการที่รอเซ็นสัญญา ได้แก่ งานอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร งานออกแบบของการไฟฟ้านครหลวง และงานปรับปรุงฝั่งซ้ายแม่น้ำแม่กลองของกรมชลประทาน เป็นต้น และ2.โครงการที่มีโอกาสได้งาน ได้แก่ งานอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร งานรถไฟรางคู่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) งานขยายสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT รวมถึงสนามบินระดับภูมิภาค งานต่าง ๆ ในพื้นที่พัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) งานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก และสายสีม่วงใต้ งานการประปานครหลวง งานไฮโดรเพาเวอร์ สปป.ลาว และงานภาครัฐอื่น ๆ

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีงานคงค้าง (Backlog) รอส่งมอบรับรู้รายได้รวม 3,750 ล้านบาท แบ่งเป็น งานภาครัฐ 66% ภาคเอกชน 22% ต่างประเทศ 10% และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีก 2% นอกจากนี้ยังงานในมือรอรับรู้รายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ Water Recycling รวม 3.81 ล้านบาท โซลาร์รูฟท็อป รวม 44.64 ล้านบาท โครงการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling) 590.80 ล้านบาท และน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ รวม 237.51 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทคาดว่างานต่างประเทศกลับมามีสัดส่วนเกิน 10% เทียบกับปี 2564 ที่ไม่ถึง 10% เชื่อว่าจะมีโครงการต่าง ๆ กลับมาต่อเนื่อง รวมไปถึงควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการทำงานลดลง หลังโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ ปรับตัวดีขึ้นด้วย ส่วนสถานะทางการเงินยังแข็งแกร่ง และมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.14 เท่า

ด้านน.ส.นวลแพร ภัทรมัย ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผน และสื่อสารองค์การและนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า ในปี 2565 ยังคงเป้าหมายมีรายได้เติบโต 10% เทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้ 1,758 ล้านบาท สอดคล้องกับการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ บวกกับเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมฟื้นตัว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้งานโครงการภาครัฐ และเอกชนทยอยออกมาต่อเนื่อง สะท้อนจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 ที่มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าไตรมาส 1/2564

Back to top button