BH-BDMS ตัวท็อป! รับอานิสงส์ฟรีวีซ่าชาวซาอุฯ 30 วัน หนุนผู้ป่วยต่างชาติพุ่ง

BH-BDMS ดาวเด่นหุ้นรพ. รับอานิสงส์ฟรีวีซ่าชาวซาอุฯ 30 วัน หนุนผู้ป่วยต่างชาติเข้าไทยทะลุ 1.5 แสนราย จับตากำไรปีนี้โตทะลัก


บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(8 มิ.ย.2565) ว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการการเพิ่มซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน

โดยจะทำให้มีชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะอนุญาตให้ชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมายังประเทศไทยปีละประมาณ 30,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 100,000-150,000 คน ในปัจจุบันผู้ถือหนังสือเดินทางชาวซาอุดีอาระเบียสามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) โดยพำนักในประเทศไทยได้ 15 วัน เสียค่าธรรมเนียมรายละ 2,000 บาท

ด้าน KTBST มีมุมมองเป็นบวกจากประเด็นข้างต้น โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียใน 4 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 0.5% ของนักท่องเที่ยวที่เข้าไทย (อยู่ที่ 4,000 คน) โดยเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพ-ซาอุ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่ก.พ.

ทั้งนี้คาดว่าจะเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นไปหลังจบเทศกาล รอมฎอน คาดจะส่งผลบวกกับกลุ่มโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติมาก ดังนี้

บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH  สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 55%, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS (แนะซื้อเป้า 31.00 บาท) คาดสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติปีนี้ที่ 25% เบื้องต้นประเมินค่าใช้จ่ายต่อหัวจากนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียอยู่ที่ 50,000 บาท/คน, ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว 80% จะเป็นค่ารักษาพยาบาล และ 70% ของนักท่องเที่ยวซาอุฯเข้ามาเพื่อ medical tourism อิงจากรายได้นักท่องเที่ยวของโรงพยาบาล (รพ.)ที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยคาดว่ามีโอกาสที่นักท่องเที่ยวซาอุจะมา BH ที่ 80% , BDMS 20%

โดย Case 1 คาดนักท่องเที่ยวซาอุในปีนี้ อยู่ที่ 60,000 คน อิงนักท่องเที่ยวซาอุ 1% ของนักท่องเที่ยวรวม, คาดว่าจะส่งผลบวกต่อรายได้กลุ่ม รพ. ที่ 1,680 ล้านบาท คาดจะเพิ่มกำไรสุทธิให้ BH ที่ 228 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 8%) และ BDMS ที่ 37 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 0.4%)

ส่วน Case 2 คาดนักท่องเที่ยวซาอุในปี 2565 อยู่ที่ 100,000 คน คาดว่าจะส่งผลบวกต่อรายได้กลุ่ม รพ. ที่ 2,800 ล้านบาท ถ้าอิงตามสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ คาดจะเพิ่มกำไรสุทธิให้ BH ที่ 381 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 จาก consensus ที่ 13%) และ BDMS ที่ 62 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 0.7%)

Case 3 คาดนักท่องเที่ยวซาอุในปี 2565 อยู่ที่ 150,000 คน (70% ของนักท่องเที่ยวเข้ามารับการรักษา) คาดว่าจะส่งผลบวกต่อรายได้กลุ่ม รพ. ที่ 4,200 ล้านบาท ถ้าอิงตามสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ คาดจะเพิ่มกำไรสุทธิปี 2565 ให้ BH ที่ 572 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 จาก consensus ที่ 20%) และ BDMS ที่ 92 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิปี 22E ที่ 1%)

Back to top button