AAV-BA-AOT ควงแขนบวก! รับมาตรการยกเลิก Thailand Pass ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้

AAV-BA-AOT ราคาหุ้นเด้ง! จ่อรับเปิดประเทศเต็มตัว หลังมาตรการรัฐยกเลิก Thailand Pass มีผล 1 ก.ค.65 ส่งผลดีต่อการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 มิ.ย. 2565) ราคาหุ้นกลุ่มสายการบินทยอยปรับตัวขึ้นอีกครั้ง คาดว่ารับอานิสงส์หลังจาก ศบค.มีมติมาตรการให้ยกเลิก Thailand Pass นับตั้งแต่ 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป ผลดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งราคาหุ้นบริษัทตอบรับนำโดยบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาหุ้น ณ เวลา 12:00  น. อยู่ที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.44% ทำราคาสูงสุดที่ 2.86 บาท ทำราคาต่ำสุดที่ 2.72 บาท มูลค่าการซื้อขาย  70.94 ล้านบาท

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ราคาหุ้น ณ เวลา 12:00 น. อยู่ที่ระดับ 10.70 บาท บวกไป 0.30 บาท 3.85%  อยู่ที่ระดับ 10.70 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.88% ทำราคาสูงสุดที่ 11.00 บาท ทำราคาต่ำสุดที่ 10.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 61.90 ล้านบาท

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT  ราคาหุ้น ณ เวลา 12:00 น. อยู่ที่ระดับ 68.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.11% ทำราคาสูงสุดที่ 68.50 บาท ทำราคาต่ำสุดที่ 67.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 737.54 ล้านบาท

เบื้องต้นจากราคาหุ้นบนกระดานของ AAV, BA และ AOT  หุ้นสายการบินเด้งกลับอย่างชัดเจนเป็นผลจากรับปัจจัยบวกหลังจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2565  ว่ามีมติผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยว ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ดังนี้

1.ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ไม่บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อและแสดงเอกสารการทำประกันสุขภาพ ส่วนใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccination Certificate) ยังต้องแสดงกับสายการบินในขั้นตอนการเช็กอินจากประเทศต้นทางอยู่

2.ยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ตาม “ความสมัครใจ” แต่ยังคง “แนะนำ” ให้สวมใส่เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด อย่างการจัดงานที่มีคนร่วมงานเกิน 2,000 คนขึ้นไป เช่น คอนเสิร์ต แนะนำว่าควรใส่หน้ากากอนามัยไว้ เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19

3.ยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 (การกรอกรายการของคนต่างด้าว ซึ่งเดินทางเข้าในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร) สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางทางอากาศ

4.ขยายเวลาการเปิดให้บริการของ “ธุรกิจภาคกลางคืน” เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับคืนสู่ภาวะปกติ ให้เป็นไปตามกฎหมายเดิม เปิดบริการได้ถึงเวลา 02.00 น.

5.อนุญาตให้เฉพาะในพื้นที่ “โรงแรม” ต่างๆ ทั่วประเทศ สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้เข้าพักได้ ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. เพื่อสนับสนุนบรรยากาศการท่องเที่ยว เช่น ถ้านักท่องเที่ยวเล่นน้ำในโรงแรม และต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ต้องหยุดขายเมื่อถึงเวลา 14.00 น. คงส่งผลไม่ดีนัก

ทั้งนี้จากมติ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการเดินทางและท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการยกเลิกระบบ Thailand Pass นั้นจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ทำให้มีจำนวนเดินทางเข้าไทยเพิ่มเป็น 25,000-30,000 คนต่อวัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20,000-25,000 คนต่อวัน

อย่างไรก็ดีคาดการณ์ว่าตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 7.5 ล้านคน แต่จะเร่งสปีดให้ได้ถึง 10 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ไฮซีซั่น ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ คาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 1.5 ล้านคนต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละ 50,000 คน

Back to top button