4 หุ้น “โรงไฟฟ้า” วิ่งคึก! รับ “กกพ.” ขึ้นค่า Ft ชู BGRIM ท็อปพิก เป้า 45 บ.

4 หุ้นโรงไฟฟ้าพุ่งแรง! รับข่าว กกพ. ปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ อยู่ที่ 68.66 สตางค์ งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.65 โบรกชู BGRIM ท็อปพิก แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.65) หลังจากราคาหุ้นกลุ่มไฟฟ้าปรับตัวขึ้นเชื่อว่ารับอานิสงส์จาก กกพ. ปรับขึ้นค่า “เอฟที” โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์ คือ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เวลา 10:29 น. อยู่ที่ระดับ 39.25 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 3.29% สูงสุดที่ระดับ 39.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 435.13 ล้านบาท

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 69.50 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 2.58% สูงสุดที่ระดับ 69.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 69.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 351.42 ล้านบาท

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 186.00 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 0.54% สูงสุดที่ระดับ 188.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 185.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77.25 ล้านบาท

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 38.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.31% สูงสุดที่ระดับ 39.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85.53 ล้านบาท

โดยแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ที่ประชุม (บอร์ด) กกพ.ได้สรุปอัตราค่าไฟฟ้าฝันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นจะปรับอัตราเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากเป็นต้นทุนที่แท้จริงตามราคาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่ปรับสูงขึ้น และเมื่อรวมกับค่า Ft งวดปัจจุบัน (พ.ค.–ส.ค. 65) ที่เก็บอยู่  24.77 สตางค์ต่อหน่วย

ทั้งนี้ จะส่งผลให้ค่าเอฟที โดยรวมในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อนำมารวมกับค่าไฟฟ้าฐานประมาณ 3.79 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมที่ประชาชนต้องจ่าย 4.72 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 ที่ประชาชนจ่าย 4 บาทต่อหน่วย

ด้าน บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยให้น้ำหนัก Overweight จากกระแสข่าวว่าค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ 0.9-1.0 บาท ในงวด ก.ย.-ธ.ค.65 โดยแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนและปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ในงวดใหม่เดือน ก.ย.-ธ.ค.65 มีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าอาจต้องปรับเพิ่มสูงถึงเกือบ 5 บาทต่อหน่วย

สำหรับในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยจะประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติต้นทุนต่ำในอ่าวไทย และยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ค.65 จนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก คาดสร้าง positive sentiment ให้กับโรงไฟฟ้า SPP ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นต้นทุนหลัก จากแนวโน้มการปรับขึ้นค่าเอฟที เพื่อสะท้อนภาระต้นทุนที่สูงขึ้น หุ้นที่ได้ positive sentiment จากประเด็นดังกล่าวคือ GPSC นำ ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท รวมถึง BGRIM แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท

อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยยังคงเลือก BGRIM เป็น top pick ของกลุ่มนอกจากรับ sentiment เชิงบวกกับการปรับขึ้นค่าเอฟทียังมีโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีกกว่า 0.5-1.0GW คาดมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังปี 65 เป็นอีก catalyst

ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มการปรับขึ้นค่า ft ที่มากกว่าคาดจะทำให้กำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าดีกว่าคาดโดยเฉพาะกลุ่มที่มีการขายไฟฟ้าลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) อย่าง GPSC ที่มีสัดส่วนการขายไฟ IU 37%, BGRIM มี IU 25%, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มี IU 15% เบื้องต้นคาด upside ต่อกำไรปกติกลุ่มปี 2565 รวมราว 464 ล้านบาท หรือราว 1%

ทั้งนี้หากแยกรายหุ้น upside ต่อกำไรจะเป็น GPSC สัดส่วน 2%, BGRIM สัดส่วน 2% , GULF สัดส่วน 1%, EGCO สัดส่วน 0.2%, RATCH สัดส่วน 0.4% ตามลำดับ ทั้งนี้ upside ดังกล่าวไม่ได้กระทบปี 2565 ของหุ้นในกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ

โดยคงคำแนะนำ Bullish ต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า คงมุมมองจุดปลอดภัยในการสะสมเป็นช่วงไตรมาส 2/2565 ที่ราคาต้นทุนพลังงานผันผวนน้อยลง ระยะสั้นมองมีแรงกดดันจากราคาพลังงานผันผวนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนกระทบ margin ส่วนการขายไฟ IU แต่ระยะยาวยังมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาต่อเนื่องในช่วงปี 2565-2568, ความต้องการใช้ไฟฟ้าฟื้นตัวหลังผลกระทบ COVID-19 ลดลง, การปิดซ่อมตามแผนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ลดลง และการปิดซ่อมนอกเหนือแผนลดลง รวมถึงแนวโน้ม GPM ที่ฟื้นในระยะยาวจากการปรับขึ้น ft ของรัฐมาชดเชยต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น

 

Back to top button