SICT พุ่งกระฉูด 15% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นครึ่งหลังโตต่อ-รักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ 46-50%

SICT พุ่งกระฉูด 15% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นผลงานครึ่งหลังโตต่อ-ตุนแบ็กล็อกแน่น จับตายอดขายปีนี้ทะลุ 524 ล้าน พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ 46-50%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(5 ก.ย.65)ราคาหุ้นบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ปิดตลาดที่ระดับ 9.40 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 15.34% ราคาหุ้นสูงสุด 9.40 บาท ราคาต่ำสุด 8.15 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 321.76 ล้านบาท  โดยราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.63

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์(18 ส.ค.65) ว่า SICT งานในมือ(แบ็กล็อก) Backlog ของบริษัทในปี 2565-2566 ยังแข็งแกร่ง โดย backlog ในปีนี้สูงเกินยอดขายปี 2564 ไปแล้ว ในขณะที่ backlog ปี66 เกิน 50% ของยอดขายปี 2564 ไปแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัททำยอดขายได้ 290 ล้านบาท ในครึ่งแรกปี 2565 โต 37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงเชื่อว่าบริษัทน่าจะสามารถทำยอดขายปีนี้ได้ตามสมมติฐานของเราที่ 524 ล้านบาท โต 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดย ULTX ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัทยังคงได้รับการตอบรับอย่างดี และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8-10% ของรายได้จากกลุ่ม immobilizer (ประมาณ 3% ของรายได้รวม)

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/655 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 56.4% แต่เราคิดว่าอาจจะลดลงในครึ่งหลังของปีนี้ เพราะมีสัดส่วนวัตถุดิบที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้นซึ่งเราได้นำเข้ามาใส่ไว้ในประมาณการของเราเป็นส่วนมากแล้ว ถึงแม้เราจะคาดว่าอานิสงส์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำจะลดลงในไตรมาสหน้า แต่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทใช้สนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวม

โดยคาดว่าบริษัทน่าจะยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้ใน 46-50% ได้ ซึ่งจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งที่ 56.1% ในครึ่งแรกทำให้ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ขึ้นอีก 1.5ppts (เป็น 53.5%) และปี 2566 ขึ้นอีก 0.5ppt เป็น 51.0%

ทั้งนี้ได้ปรับสมมติฐานสำคัญ และปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2565-2567 ขึ้นอีก 6%/3% ตามลำดับ (Figure 2) เนื่องจาก i) ผลประกอบการไตรมาส 2/65 ออกมาดีเกินคาด ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวดครึ่งปีแรกคิดเป็น 83% ของประมาณการกำไรเต็มปี backlog ยังแข็งแกร่ง และมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และค่าใช้จ่าย SG&A กลับสู่ระดับปกติเนื่องจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ลดลง โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 จากเดิม 8.60 บาท เป็น 9.20 บาท  อิงจาก PER เท่าเดิมที่ 27 เท่า

Back to top button