“สายการบิน-โรงแรม” ตีปีก! ครม.ไฟเขียว “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5”

นักท่องเที่ยวและปู้ประกอบการเตรียมเฮ ครม. ไฟเขียวอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนก.พ. 66 คาดมีคนใช้สิทธิ 1.12 แสนคน


นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (24 ม.ค.) เห็นชอบงบกลางฯปี 66 วงเงินประมาณ 4 พันล้านบาทให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการท่องเที่ยว 2 โครงการ ได้แก่

1.โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 วงเงิน 2,016 ล้านบาท เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ คือ รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพัก 40% จำนวน 560,000 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน) สูงสุด 3,000 บาท จำกัดให้สิทธิ์จองได้สูงสุดคนละ 5 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน) ค่าใช้จ่ายอีวอยเชอร์ 600 บาท โดยไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วเครื่องบิน เหมือนเฟส 1-4

2.โครงการบูสเตอร์ช็อตกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ วงเงิน 1,930 ล้านบาท ดำเนินการ 4 เรื่องหลัก คือ กระตุ้นตลาดต่างประเทศ กระตุ้นไทยเที่ยวไทย การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมทั้งยกระดับสินค้าบริการท่องเที่ยว อีกทั้งการสื่อสารการตลาด ประชาสัมพันธ์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทย เป้าหมาย 25 ล้านคน

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยด้วยว่าสำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 รอบนี้ กำหนดจำนวนสิทธิ์การจองที่พักไว้ 560,000 สิทธิ์ (ห้อง/คืน) โดยจำกัดให้สิทธิ์จองได้สูงสุดคนละ 5 สิทธิ์ และได้คูปอง อี-เวาเชอร์ 600 บาทต่อหนึ่งสิทธิ์ โดยไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วเครื่องบิน คาดว่าจะมีคนใช้สิทธิ์ทั้งหมด 112,000 คน และจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนลงในระบบเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีหลังจากนี้จะต้องดูเรื่องของระบบที่ต้องไปคุยกับธนาคารกรุงไทยก่อนว่าจะปรับระบบอย่างไรบ้าง เพราะโครงการนี้ต้องปรับลดสิทธิ์ของผู้เข้าร่วมโครงการจากสูงสุดคนละ 10 สิทธิ์ เหลือ 5 สิทธิ์ และน่าจะเริ่มในเดือนก.พ.นี้ โดยจะกำหนดวันที่ชัดเจน และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ทั้งนี้ นอกจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว ครม.ยังเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว วงเงิน 1,930 ล้านบาท โดยปรับวงเงินลงจากเดิมประมาณ 53 ล้านบาท โดยจะใช้ในการกระตุ้นตลาดต่างประเทศ 518 ล้านบาท การกระตุ้นตลาดในประเทศ 582 ล้านบาท การจัดทำสินค้าและกิจกรรมพิเศษด้านการท่องเที่ยว 445 ล้านบาท และการประชาสัมพันธ์ 383 ล้านบาท

โดยจากครม. ไฟเขียวโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เชื่อว่ามีหุ้นจะได้รับอานิสงส์ในเรื่องการท่องเที่ยวไปด้วยเช่นกันหลักคงหนีไม่พ้นกลุ่มสายการบิน และโรงแรม อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทยทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบัน บริษัทถือหุ้นใน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด โดยให้บริการสายการบินราคาประหยัดมีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินในประเทศไทยราว 35%

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มสายการบินที่มีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินในประเทศไทยสูงสุดราว 72%

ขณะที่กลุ่มโรงแรงอย่าง บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยสูงสุดราว 90%

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เป็นหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยราว 60%

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ  CENTEL ประกอบธุรกิจโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยราว 32%

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เป็นผู้ดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม อย่างไรก็ตามมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยราว 9%

นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการที่ครม.ได้อนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ได้ทำให้มีหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์ในเรื่องการท่องเที่ยวไปด้วย อาทิ AOT , AAV , ERW, CENTEL, CPALL และ MAKRO

Back to top button