SKY บวกต่อ 7% “ออลไทม์ไฮ” เมินตลท.ขยาย “แคชบาลานซ์” ยาวถึง 14 ก.พ.นี้

SKY บวกต่อ 7% "ออลไทม์ไฮ” เมินตลท.ขยายเวลา “แคชบาลานซ์” ยาวถึง 14 ก.พ.66 จับตาแจ้งงบไตรมาส 4/65 กลางเดือนหน้า มั่นใจโตตามเป้าที่วางไว้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 ม.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 20.20 บาท บวก 1.40 บาท หรือ 7.45% ราคาสูงสุด 20.50 บาท ราคาต่ำสุด 19.00  บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 193.93 ล้านบาท ราคาหุ้นทำออลไทม์ไฮ

ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศขยายช่วงดำเนินการห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY เริ่มวันที่ 25 ม.ค.66- 14 ก.พ.66

โดยก่อนหน้านี้นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKY เปิดเผยว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคา SKY น่าจะเกิดจากนักลงทุนอาจเข้ามาเก็งกำไรว่าบริษัทจะได้รับผลดีจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว หลังการเปิดประเทศส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น ส่วนประเด็นอื่นอย่างผลประกอบการของบริษัทในปี 2566 ก็คาดว่าจะออกมาดีกว่าปีที่ผ่านมา

บริษัทคาดว่าจะปิดงบไตรมาสที่ 4/65 ในกลางเดือนหน้า แนวโน้มเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จากผลงานก็น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนแผนงานปี 66 ยังต้องรอเสนอแผนเข้าบอร์ดในกลางเดือนนี้ ก่อนจะแถลงอย่างเป็นทางการในเดือน ก.พ. หลังจากประกาศงบปี 65 แล้

นายสิทธิเดช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณีที่ทางการจีนประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 8 ม.ค. 66 คาดว่าจะทำให้จำนวนผู้มาใช้บริการผ่านสนามบินต่าง ๆ ของไทยเพิ่มมากขึ้น และคาดว่า SKY จะได้รับอานิสงส์จากการที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาใช้บริการสนามบินมากขึ้น รวมถึงบริษัทได้เตรียมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มูลค่ารวมหลักหลายพันล้านบาท ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และรองรับการเติบโตในอนาคต

โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/65 บริษัทมีงานที่รอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) ทั้งสิ้น 22,800 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง

ขณะที่ บริษัทได้ไปจับมือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยสู่ดิจิทัล เปิดแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” อีกระดับ สู่ Thailand Travel Super App โดยคาดการณ์ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงสิ้นปี 65 เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว จะมีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.1 แสนคนต่อวัน ส่งผลให้โครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยาน ซึ่งรับรู้รายได้ตามจำนวนผู้โดยสารขาเข้า ผู้โดยสารขาออก ผู้โดยสารผ่าน และผู้โดยสารเปลี่ยนลำ อาทิ โครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มีโอกาสรับรู้รายได้เติบโตขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มูลค่ารวมหลักหลายพันล้านบาท ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และรองรับการเติบโตในอนาคต

Back to top button