EA-NEX-BYD ตีปีก! รับ “ครม.” หนุน “กทม.” ใช้เมล์ไฟฟ้า

EA-NEX-BYD ตีปีก! รับ “ครม.” ไฟเขียวเปลี่ยนรถเมล์ “กทม.”เป็นเมล์ EV หวังลด PM2.5


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค.66) ราคาหุ้น EA-NEX-BYD บวกคึก รับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสาธารณะของภาคเอกชน (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า โดยบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)

นำโดยราคาหุ้น EA ต่างปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า นำโดย บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ณ เวลา 15 :58 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 87.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.58% ราคาสูงสุดที่ระดับ 87.75 บาท  ราคาต่ำสุดที่ระดับ 86.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 772.49 ล้านบาท

ด้านบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ณ เวลา 15.52 ราคาอยู่ที่ระดับ 17.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.16% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 17.60 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 17.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106.47 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD  ณ เวลา 16:09 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 11.90บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.85% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 12.20 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 11.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 79.96 ล้านบาท

โดยวันนี้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสาธารณะของภาคเอกชน (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า โดยบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)

โครงการดังกล่าวเป็นการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านจากรถโดยสารสาธารณะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นรถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ครอบคลุมเส้นทางเดินรถโดยสารไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางจากกรมการขนส่งทางบก โดยคาดว่าจะส่งผลให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกลง 100 ตันคาร์บอนไดออกไซด์/คัน/ปี หรือ 500,000 ตัน

สำหรับคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ปี 64-73 (10 ปี) ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนได้เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะที่มีความทันสมัยปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษต่ำ การลดฝุ่น PM 2.5 เปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานสะอาด เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของประชาชน ซึ่งช่วยให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมคุณภาพ ชีวิตและสุขภาพของประชาชนดีขึ้น

การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามความตกลงปารีสระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือสำหรับการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ เปิดโอกาสให้ภาคส่วนในประเทศไทยสามารถถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตที่ได้จากการดำเนินโครงการ ตั้งแต่ปี 64-73 ให้แก่มูลนิธิ KLiK (The Foundation for Climate Protection and Carbon Offset) ของสมาพันธรัฐสวิสช่วยต่อยอดการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้เป็นไปตามแผนนโยบายพลังงาน และยุทธศาสตร์พลังงานแห่งชาติ รองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะการปรับตัวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบาย 30@30 ซึ่งไทยกำลังขับเคลื่อนเพื่อก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก

สำหรับ EA ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม 1.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และสารเปลี่ยนสถานะ (ผ่านบริษัทฯ และบริษัทย่อย) 2.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) 3.) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) (3.1) ธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ (3.2) ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า), ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (3.3) ธุรกิจวิจัย และพัฒนา (3.4) ธุรกิจอื่น

ส่วนราคาหุ้น NEX-BYD ที่ปรับตัวขึ้นตามคาดว่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวเช่นกันเนื่องจากหุ้นทั้ง 2 อยู่ในกลุ่มที่บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)ถือหุ้น ประกอบกับก่อนหน้านี้ BYD ได้ใบอนุญาตวิ่งรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลอีก 71 เส้นทาง จากการเปิดใบอนุญาต 77 เส้นทาง ขณะที่ทางด้าน NEX เป็นผู้ประกอบผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และจำหน่าย ให้เช่ารถบัสโดยสาร ซ่อมบำรุง จำหน่ายอะไหล่รถบัสโดยสาร เมื่อทางบริษัท EA เร่งส่งมอบรถโดยสารไฟฟ้า (EV) คาดประเด็นดังกล่าวจะได้รับอานิสงส์ไปด้วยเช่นกัน

 

Back to top button