กลุ่ม “เจมาร์ท” ดีดกลับ! เปรย JMART หวนมีกำไร Q3 ยืนยัน SINGER-SGC เงินสดล้น 5 พันล้าน

กลุ่มเจมาร์ทเด้งกลับหลังร่วงหนักวานนี้ ผู้บริหารเจมาร์ทยืนยันไตรมาส 3/66 จะพลิกมีกำไร หลังปรับโครงสร้าง SINGER-SGC ใหม่ พร้อมเดินหน้าดัน “สุกี้ตี๋น้อย” เข้าตลาดปี 67 ช่วยหนุนกำไร JMART ได้ดี ขณะที่ JMT-J ผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้  (16 พ.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ณ เวลา 10:51 น. อยู่ที่ระดับ 19.30 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 6.04% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 19.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 18.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 313.17 ล้านบาท

บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ราคาอยู่ที่ระดับ 2.32 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 2.32 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 2.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.88 ล้านบาท

บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ราคาอยู่ที่ระดับ 11.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 11.70 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 10.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178.04 ล้านบาท

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ราคาอยู่ที่ระดับ 41.25 บาท บวกไป 1.00 บาท หรือขึ้นไป 2.48% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 41.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160.56 ล้านบาท

บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ราคาอยู่ที่ระดับ 2.96 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.68% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 2.96 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 2.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.04 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมา นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่า ผลกำไรจะพลิกกลับมาเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้ ภายใต้การขับเคลื่อนของธุรกิจในเครือ JMART พร้อมกับมั่นใจผลขาดทุนของบริษัทควรจบภายในไตรมาส 2/2566 ส่วนไตรมาส 1/2566 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว

โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ อย่าง บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด หรือ JAYMART MOBILE, JMT,  J และ  บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ฯลฯ โดยเฉพาะ “สุกี้ ตี๋น้อย” จะเป็นตัวขับเคลื่อนผลกำไรของกลุ่มฯ อย่างมีนัย JMART ได้รับกำไรจาก “สุกี้ ตี๋น้อย” อยู่ที่ 30% จากผลกำไร “สุกี้ ตี๋น้อย” ทั้งปี 2565 อยู่ที่กว่า 850 ล้านบาทในไตรมาส1/2566 “สุกี้ ตี๋น้อย” มีกำไรที่ 209 ล้านบาท ภายใต้สาขา 46 สาขา

โดยกลับมาเติบโตแน่นอนในปีนี้ และในปี 2567 JMART ตั้งเป้าหมายเติบโตอีก 50% จากฐานปี 2565 ซึ่งนับเป็นปีตั้งต้นในการเติบโตของกลุ่มฯ โดยบริษัทเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหาร ซึ่ง SINGER และ SGC มั่นใจว่า บริษัทในเครือที่มีผลกำไรดีและการบริหารจัดการ SINGER กับ SGC ใหม่ ช่วยให้ JMART กลับมาทำกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ได้

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า JMT จะเติบโตได้สูงถึง 30% ในปีนี้ ด้วยแผนการซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารต่อเนื่อง ขณะที่บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด หรือ JK บริษัทร่วมทุนกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ได้ส่งหนี้ฯ มายังพอร์ต JK แล้วรวมทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท ซึ่งสร้างผลกำไรให้กับ บ. JMT ได้ ทั้งนี้ แนวโน้มเพิ่มหนี้เสียเข้ามาใหม่ของ JK ขึ้นอยู่กับ KBANK เป็นหลัก ขณะที่พอร์ต SINGER และ SGC มีการเร่งจัดการเพื่อให้กลับมาแข็งแรงใหม่กว่าเดิม

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER กล่าวว่า ฐานการเงินของบริษัทยืนยันว่ามีความแข็งแกร่งมาก รองรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดได้อย่างดี มีเงินสดในมือสูงถึง 3,932 ล้านบาท และเพื่อให้บริษัทกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม หลังจากนี้บริษัทเดินหน้าลดต้นทุนทางการเงิน โดย LEAN พนักงานให้เหลือ 200 คนภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันมีการ LEAN พนักงานลดลงมาอยู่ที่ 300 กว่าคนแล้ว

ส่วนแนวโน้มการสำรองหนี้เสียในไตรมาส 2/2566 มองว่าจะไม่มีผลกระทบใหญ่ ๆ เหมือนไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ตั้งเป้าเพิ่มทีมขายกลับไปที่ระดับ 1,800 ราย หลังปรับลดลงมาอยู่ที่ 400 กว่ารายในขณะนี้ และปรับเพิ่มเป็น 2,000 รายสิ้นปีนี้

นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ SGC กล่าวว่า บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งเช่นกัน มีเงินสดในมือกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินในการออกหุ้นกู้อีก 10,000 ล้านบาท ส่วนทิศทางการสำรองหนี้เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า ยังมีความท้าทายและยังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้ ขอรอดูสถานการณ์ในไตรมาส 2 ของปีนี้อีกครั้ง แต่มั่นใจว่าไตรมาส 3/2566 จะกลับมาเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้ให้ต่ำกว่า 5% พร้อมแผนจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ (Write off) และตัดหนี้เสียขายภายในไตรมาส 2-3 ปีนี้ เพื่อนำเงินมาปล่อยสินเชื่อใหม่ ขณะที่พอร์ตสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (C4C) ภายใต้แบรนด์รถทำเงินของ SGC ประมาณ 7,700 ล้านบาท ยังเป็นสินเชื่อคุณภาพและบริหารจัดการได้

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT กล่าวว่า เหตุผลที่เลื่อนการเข้าระดมทุนในตลาดของบริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด (JAM) เนื่องจาก DE ยังอยู่ในระดับต่ำ ที่สำคัญ JAM ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการสนับสนุนธุรกิจในขณะนี้

Back to top button